สวัสดีค่ะ  กลับมาพบกันอีกครั้งกับสปอยหนังที่อยากจะแนะนำ ซึ่งวันนี้ทางเราก็มีรีวิวหนังมาเสิร์ฟให้ทุกท่านได้ลุ้นระทึก ตื่นเต้น สไตล์เทลเลอร์  ไปกับ รีวิวหนังcountdown เคาท์ดาวน์ตาย  หนังชนโรง

ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้นำเข้ามาจัดจำหน่ายจากสหมงคลฟีอินเตอร์เนชั่นแนล กำกับและเขียนบทโดยจัสติน เดค ซึ่งเป็นหนังสั้นสู่ภาพยนตร์ เรื่องนี้ที่เขาได้ทำขึ้นมาจากการเกิดคำถามว่า  ถ้าหากวันหนึ่งมีนาฬิกานับถอยหลังเวลาตายได้ จะเป็นอย่างไร

แล้วถ้าหากว่าเราสามารถล่วงรู้ความตายกำลังจะมาเยือนในอีกไม่ช้าหรือเร็วนี้ คุณจะทำอย่างไร  มันมีจริงหรือไม่กับการรู้เวลาตายของตัวเอง ???  เรามาหาคำตอบไปพร้อมกันค่ะ ระทึกขวัญฝรั่ง

รีวิวหนัง countdown เคาท์ดาวน์ตาย

จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อเราสามารถรู้เวลาตายของตัวเองได้

วันหนึ่งเมื่อโลกนี้จู่ ๆ มีแอปพลิเคชันที่พร้อมจะบอก “วันตาย” ให้คุณได้รู้ คำนวณให้เสร็จสรรพว่าจะเหลือเวลามีลมหายใจได้อีก “กี่ปี กี่วัน กี่ชั่วโมง กี่นาที และ กี่วินาที” เป็นคุณจะกล้าลองโหลดไหม ?

ถ่ายทอดความสยองผ่านแอปพลิเคชัน ที่สามารถบอกได้ว่าคุณจะตายเมื่อไหร่ และหนึ่งในผู้ใช้งานแอปฯ นี้ คือ พยาบาลสาว (เอลิซาเบ็ท เลล) แอปฯ พยากรณ์ว่าเธอมีเวลาชีวิตเหลือไม่ถึง 3 วันเท่านั้น เธอไม่เคยเชื่อว่ามันจะเกิดขึ้น

รีวิวหนัง countdown เคาท์ดาวน์ตาย

จนกระทั่งมีคนตายตรงกับพยากรณ์บนแอปฯ จริง ๆ ไม่ว่าลึก ๆ แล้วเธอจะอยากรู้วันตายของตัวเองจริงหรือไม่ แต่ทางออกเดียวที่ต้องทำ คือ เอาตัวรอดก่อนจะไม่หลงเหลือแม้แต่ลมหายใจเดียว

ชะตาชีวิตพวกเขากำลังจะเปลี่ยนไป สิ่งที่เลวร้ายกว่าความตายจะไล่ล่า มันจะเล่นงานแบบไม่ทันได้หายใจ แอปเพียงแค่แอปเดียวจะตัดสินชะตาชีวิตได้ยังไง?

หนังสยองขวัญที่ไม่ได้แตกต่างไปจากเดิม

เหมือนนำแฟรนไชส์หนังโกงตายปนหลอนในยุคก่อนอย่าง Final Destination หรือ The Ring มาผสมผสานกัน ซึ่ง Countdown มันแอบสะท้อนมุมที่คนเราในยุคนี้ติดสมาร์ตโฟนกันจนเป็นอวัยวะที่ 33 ของร่างกายไปนั้นมาวางเป็นคอนเซปต์หลอนๆ

สำหรับตัวเรื่องส่วนใหญ่ไม่ได้แตกต่างจากหนังสยองขวัญทั่ว ๆ ไปมากนัก แต่คอนเซปต์แอปฯ มรณะ ที่ถูกแชร์ต่อไปเรื่อย ๆ นั้นทำให้หนังเดินเรื่องได้เรื่อย ๆ และสร้างบรรยากาศความไม่น่าไว้วางใจได้อยู่ตลอด

รีวิวหนัง countdown เคาท์ดาวน์ตาย

 ซึ่งสไตล์ตุ้งแช่ jump scare เนี่ย ยังไงก็ใช้หากินได้ตลอดสำหรับหนังสยองฟอร์มเกรดบี เรียกว่าเสียตังค์มาแล้วยังไงก็ได้ความลุ้นระทึก แม้ว่าองก์หลัง ๆ หนังจะออกทะเลไปหาปลาซะไกลอยู่บ้าง แต่พาร์ตสำคัญก็มีจุดพีคที่แอบทรงพลังอยู่เหมือนกัน 

โดยเฉพาะประเด็นครอบครัวและคนใกล้ตัว หนังเปรียบแอปฯ และสมาร์ตโฟน อยู่ตรงข้ามกับความสัมพันธ์แบบมนุษย์จริง ๆ พร้อมตั้งคำถามว่าเมื่อถึงเวลาที่คุณจะสูญเสียสิ่งที่สำคัญในชีวิตคุณจริง ๆ คุณจะเลือกรักษาอะไร

จุดเด่นของ countdown เคาท์ดาวน์ตาย

เคาท์ดาวน์ตาย มีจุดเด่นในเรื่องของการค่อย ๆ เพิ่มความตึงเครียดให้กับผู้ชมได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะกับบรรยากาศเหนือธรรมชาติที่จำเป็นจะต้องหาคำตอบ 

โดยเฉพาะเมื่อเรื่องราวดำเนินไปถึงจุดเร่งเร้าอารมณ์ ระดับความเข้มข้นก็ไม่ได้ตกลงอีกเลย แตกต่างจากหนังสยองขวัญเรื่องอื่นที่เมื่อฉากเข้มข้นดำเนินไปถึงจุดหนึ่งความแรงของหนังก็จะตกลงจนกลายเป็นเรื่องธรรมดา

รีวิวหนัง countdown เคาท์ดาวน์ตาย

 เสียงประกอบบางอย่างเองก็ถือว่าทำออกมาได้ดี โดยเฉพาะเสียงที่คนดูได้ยิน แต่ตัวละครกลับไม่ได้ยิน เป็นองค์ประกอบที่เพิ่มความน่าขนลุกให้กับเรื่องราวอย่างมาก 

ในส่วนของจุดด้อย ต้องพูดกันตามตรงว่าการพยายามสร้างความหวาดกลัว ความละเอียดของเรื่องราว การพัฒนาตัวละครและมุมกล้องของหนังสยองขวัญ Countdown เคาท์ดาวน์ตาย ยังทำออกมาได้ไม่ดีพอ ทำให้หลายฉากมันดูตลก ๆ ขัด ๆ พอสมควร

สิ่งที่น่าผิดหวังที่สุดคือพัฒนาการของตัวละครที่ค่อนข้างช้ามาก หรือหากกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือไม่มีเลย แต่ก็ยังพอที่จะเกลี่ยให้เรื่องราวดำเนินไปได้ด้วยการพยายามสร้างความน่าสนใจให้กับตัวละครที่มีบุคลิกภาพที่แตกต่างกัน

รวมนักแสดงมากความสามารถไว้อย่างคับคั่ง

ได้นักแสดงสาวอย่าง “เอลิซาเบ็ท เลล” (Elizabeth Lail) มารับบทนำ ซึ่งหากใครเคยได้ดู Series ใน Netflix อย่าง You น่าจะจำภาพของเธอได้ดี และแน่นอนว่า หนังเรื่องนี้เป็นแนวสยอง-ระทึกขวัญ 

แม้ว่าว่าจะดูนางเอกเป็นหลักและเสน่ห์ของเธอในเรื่องนี้ก็ยังไม่เสื่อมคลาย แต่ที่มีเซอร์ไพรส์ในเรื่องคือหนังมีอะไรมากกว่าที่เห็นในตัวอย่างพอควรเลยครับ แม้จะพอเดาได้ แต่ก็ต้องยอมรับผู้สร้างไม่ได้เอาแอพมาผูกเล่นแบบคิดง่ายๆ 

หนังมีอ้างอิงที่มาที่ไป โยงไปหาเรื่องราวในไบเบิลได้เข้าท่าเหมือนกัน กับประเด็นที่ทุกคนอาจจะต้องเคยแว่บคิดอยากรู้ตัวเองจะตายเมื่อไหร่

หนังชนโรง

หนังเล่นเรื่องดลใจใคร่รู้ในชะตากรรมของตัวเราเองมาเล่น ซึ่งก่อนนี้ก็มีพล็อตแอบคล้ายกันเรื่องความตายตามล่าคนที่รู้ว่าตัวเองต้องตาย การยอมรับชะตากรรมเพราะเลือกอยากรู้เวลาตายเอง หนังชวนให้คิดเหมือนกันว่าจริงๆ แล้วถึงเราเคยคิดว่าจะตายเมื่อไหร่

 แต่ถ้ามีอะไรสักอย่างมาให้บอกให้รู้ โดยให้เลือกว่าจะดูหรือไม่ดูด้วยตัวคุณเอง คุณยังจะเลือกรับรู้วันตายของตัวเองอยู่หรือไม่ ซึ่งหนังเอาส่วนนี้มาเล่นโดยมีปมดราม่าในจิตใจของตัวละครผูกติดไว้อีกที ที่เกี่ยวกับความผิดเล็กๆ แต่กลายเป็นทำให้เกิดเรื่องร้ายแรง

ถ้าเราโตกับความรู้สึกผิดทุกวันจนอยากตายอยู่แล้ว เราควรจะยอมรับชะตากรรมเวลาตายของเราจริงๆ 

หนังตั้งใจเล่นกับฉากจั๊มสแกร์เป็นหลัก ซึ่งถ้าใครขวัญอ่อนก็อาจจะน่ากลัวได้เลยเพราะใส่มาซะเยอะ แต่จริงๆ มันออกแนวตลกแบบบอกไม่ถูกปนมาด้วย จากตัวละครสมทบในเรื่อง

รีวิวหนัง countdown เคาท์ดาวน์ตาย

ไอเดียของพลอตเรื่องดีใช้ได้เลย เล่นกับความอยากรู้อยากเห็นของคน แต่การดำเนินเรื่องเดินตามสูตรไปหน่อยจึงทำให้พอจะเดาทางได้ไม่ยาก

หนังให้อารมณ์เหมือนหนังตระกูล Final Destination มาก โดยเฉพาะในแง่ที่ตัวละครพยายามดิ้นรนโกงความตายจากอะไรก็ตามที่กำลังตามเอาชีวิตพวกเขาอยู่

แต่แม้จะบอกว่าให้อารมณ์เหมือนหนังตระกูล Final Destination ก็ตาม แต่ก็ไม่ได้มีฉากโหดเลือดสาดอะไรเหมือนกับเรื่องนั้นนะฮะ เรื่องนี้จอจะสะอาดกว่าเยอะ

หนังชนโรง

ออกไปทางหลอนๆ ตุ้งแช่แบบหนังสยองแบบหนังผีปีศาจซะมากกว่า และยังมีหยอดมุกตลกเข้ามาด้วยในบางช่วงพอให้คลายความตึงเครียดไปได้บ้าง

มองในเรื่องของแนวคิดของการออกแบบเรื่องราวก็ยังถือว่ามีความน่าสนใจ โดยเฉพาะประเด็นความสงสัยว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อตัวเลขนับจนถึงศูนย์?

ด้วยองค์ประกอบทั้งหมดที่ได้กล่าวถึงไปแล้วในตอนต้น หนังสยองขวัญ Countdown เคาท์ดาวน์ตาย ถือว่าเป็นหนังสยองขวัญระดับมาตรฐานที่พอเปิดดูได้เวลาที่ไม่มีอะไรจะดู แต่ก็อย่าคาดหวังกับมันมากนัก

พล็อตดูงั้นๆ แต่หนังมีอะไรในเรื่องพอสมควร และก็เล่นกับการหาทางออกจากชะตากรรมได้เข้าท่าอยู่ไม่น้อย คือไม่สามารถเล่าได้เลยว่าเป็นยังไง

รายละเอียดของภาพยนตร์

เรื่องราวของ Quinn Harris นางพยาบาลสาวฝึกหัดที่ไปดาวน์โหลดโมบายแอพพลิเคชั่นตัวหนึ่งที่ชื่อว่า Countdown ลงในโทรศัพท์มือถือของตัวเอง ซึ่งแอพนี้สามารถบอกเวลาตายของเจ้าของเครื่องได้ 

เรื่องนี้ เป็นเรื่องผสมผสานความสยองขวัญ สั่นระทึก กับ หนังแนวภูติผีปีศาจ ที่เอาเรื่องราวมาผูกกัน มีการดำเนินเรื่องที่ถือว่าน่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

เป็นหนังที่ค่อนข้างที่จะดูง่าย ไม่ต้องคิดอะไรมากมาย  การดำเนินเรื่องเป็นเส้นตรงแบบชัดเจน ผสมความดราม่า ได้อารมณ์ตื่นเต้น ลุ้นๆ เหมือนดูหนังโกงความตายอย่าง Final Destination แบบที่ไม่มีฉากโหดเลือดสาด แต่มีฉากสยองแบบหนังผี

หนังชนโรง

ประเภท : สยองขวัญ / ระทึกขวัญ

ปีที่ฉาย : 2019

เวลา : 1.30 ชั่วโมง

IMDb: 5.4 /10

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *