รีวิวหนัง Cadaver ห้องเก็บศพ

สวัสดีค่ะ กลับมาพบกันอีกเช่นเคยนะคะ ผู้อ่านที่น่ารักทุกๆ คน ในวันนี้ผู้เขียนจะมารีวิวหนังเรื่อง Cadaver ห้องเก็บศพ  หนังสยองขวัญฟอร์มเล็ก แต่ดีกรีความน่ากลัวไม่เล็กเลยสำหรับเรื่องนี้  หนังชนโรง

ตามหลักแล้วความยาวของหนังสยองขวัญจะไม่ค่อยยาวมากนัก และเรื่องนี้มาด้วยความยาว 1 ชั่วโมง 26 นาที ถือว่าเป็นหนังที่ความยาวน้อยมากๆ แต่ด้วยความยาวของเรื่องเพียงเท่านี้ ก็นับว่าเพียงพอต่อความตึงเครียดของทั้งเรื่องเลย 

ความน่ากลัวและความน่าสนใจของหนังเรื่องนี้ จะมีอะไรบ้างนั้นผู้เขียนไม่พลาดที่จะมารีวิวให้ได้อ่านกันเหมือนเช่นเคยนะคะ ถ้าพร้อมแล้วไปอ่านรีวิวที่ด้านล่างกันได้เลยค่ะ ระทึกขวัญฝรั่ง

แม้ว่าจะเป็นหนั้งฟอร์มเล็ก ความยาวเรื่องก็ไม่ได้มากมายอะไร แต่ความน่ากลัว สยองขวัญ ปั่นประสาทคนดูเขาทำได้อยู่หมัดจริงๆ ตัวละครเพียงไม่กี่คนเท่านั้น แต่คุมผู้ชมให้จดจ่อกับหนังเอาไว้ได้ตลอดระยะเวลาของหนังเลย ด้วยความที่พล็อตเรื่องไม่ได้มีความซับซ้อน เล่นอยู่กับความลึกลับที่ต้องหาบทลงเอยให้ได้

พล็อตเรื่องผีในห้องเก็บศพ อาจจะไม่ใช่เรื่องที่เห็นกันได้บ่อยๆ ในฐานะคนที่ไม่ใช่แฟหนังสยองขวัญ การปล่อยตัวละครที่เป็นตัวเอกในการดำเนินเรื่องให้อยู่ในสถานที่ปิด มีแค่คนๆ เดียวและทำงานอยู่กับศพ

ถือว่าท้าทายมากๆที่จะทำให้หนังสนุกและน่าติดตาม และในเรื่องนี้ก็มีอยู่หลายอย่างมากที่หนังทำออกมาได้ดี ทั้งการเล่นกับความมืด ใช้ความสลัวของแสงไฟทำให้คนดูรู้สึกระแวงอยู่ตลอด ว่าผีจะออกมาจากมุมไหน 

หนังเล่นกับความกลัว และอารมณ์ของคนดูเอาไว้ได้ดีมากๆ ทั้งความเงียบ ความมืดมิด สถานที่เก็บศพ คนเป็น หลายฉากเราจะเห็นแค่ตัวละครหลักเพียงคนเดียว

ดนตรีที่ใส่เข้ามาในช่วงเวลาที่คนกำลังจดจ่อ คนขวัญอ่อนเนี่ยลุ้นกันจนเหนื่อยแน่นอน แต่ถ้าเป็นคนดูหนังแนวนี้มาเยอะหน่อย ก็จะจับจังหวะถูกว่าตอนไหนผีมาแน่ๆ

หนังไม่ได้บอกถึงที่มาของผีร้ายตนนี้ ว่าทำไมมันถึงยังไม่ยอมไปไหน แต่เรามองว่าก็อาจจะไม่จำเป็นเท่าไหร่แล้ว มันไม่ยอมให้ร่างที่สิงอยู่ถูกทำร้าย แถมยังยื้อเวลาไปเรื่อยๆอีกด้วย พลังร้ายไม่เบาเลยทีเดียว 

แต่หนังที่มีพล็อตเรื่องแบบนี้ ดูเหมือนต้องอาศัยการตัดต่ออย่างมากเลยทีเดียว บรรยกาศแสงไฟน้อยๆ สถานที่ดูมีความเทาๆ บรรยกาศดูหม่นๆอยู่ตลอดทั้งเรื่อง มีเสียงดนตรีช่วยบิวต์อารมณ์ให้คนดู

ในขณะที่ยังดำเนินเรื่องราวอยู่ อาจจะทำให้คนดูสามารถคาดเดาสถานการณ์ได้ซะส่วนใหญ่ มีการปูปมตัวละครให้น่าสนใจมากในช่วงแรก

แต่ก็โยนทิ้งไปดื้อๆเลย แบบไม่ทันได้เห็นเลยว่าทำไรได้บ้าง นอกจากที่ผ่านมาชีวิต หน้าที่การงาน ล้มเหลว เลยทำให้เป็นเรื่องฝังใจแค่นั้นเลย แต่ภาพรวมของเรื่องก็ออกมาดูดีในระดับหนึ่งเลย น่ากลัว สยองขวัญ ลุ้นระทึก ปั่นประสาท ชนิดที่ว่าคนขวัญอ่อนมีใจเสียกันบ้างเลยแหละ

เมแกน ที่เริ่มทำงานที่ใหม่ เป็นเจ้าหน้าที่ประจำห้องดับจิต งานของเธอก็ไม่ได้มีอะไรยุ่งยากนอกจาก ตรวจเช็คสภาพศพว่าตรงกับใบที่แจ้งมาใหม่ เก็บลายนิ้วมือ ทำเอกสาร แล้วเก็บศพเข้าช่องเก็บศพ โดยการทำงานของเธอคือทำกะดึก

นั้นหมายความว่ามีเธอเพียงคนเดียว เธอเชื่อแค่ว่าคนตายไปแล้ว ก็คือตายไปเลย ไม่ได้เชื่อเรื่องภูตผีปีศาจ อะไรทำนองนั้นเลย จนกระทั่งวันหนึ่งมีศพของ ฮันนาห์ เกรซ ศพของหญิงสาวรายหนึ่งที่สภาพเหมือนถูกไฟไหม้มา แถมตามเนื้อตัวมีร่องรอยของบาดแผล 

ศพนี้เป็นศพแรกที่มีความผิดปกติ สีตาไม่ตรงกับในใบแจ้ง แถมเครื่องมือในห้องเก็บศพไม่สามารถใช้งานได้ เมแกเลยไม่สามารถทำงานให้เสร็จลุล่วงไปได้

และความแปลกประหลาดก็เริ่มต้นขึ้นเมื่อช่องเก็บศพของ เกรซ เด้งออกมาเอง รอยแผลบนตัวหายไป  และความน่ากลัวก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ และสาเหตุก็มาจากศพนั้น เมแก ต้องพิสูจน์ให้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เรื่องราวจะจบลงแบบไหน ความน่ากลัว ความสยองขวัญ จะจัดเต็มกับคนดูขนาดไหน ผู้เขียนอยากให้ทุกคน ได้ไปติดตามต่อกันเองนะคะ

หนังเปิดเรื่องด้วยฉากการไล่ผี หรือไล่ปีศาจเนี่ยแหละออกจากร่างของ  ฮันนาห์ เกรซ โดยมีพ่อของเธอคอยดูแล และบาทหลวงสองคนคอยทำพิธี แต่วิญญาณร้ายที่สิงร่างของเธอนั้นแข็งแกร่งเกินไป มันใช้อำนาจและพลังฆ่าหนึ่งในบาทหลวงที่กำลังท่องบทสวดอยู่

และกำลังจะหันมาเล่นงานบาทหลวงอีกคน พ่อของเธอตัดสินใจที่จบชีวิตลูกสาวก่อนเธอจะ ฆ่าบาทหลวงอีกคน และเรื่องราวก็ถัดมาอีก 3 ปีข้าง และหนังก็เล่าเรื่องราวของ เมแกน อดีตตำรวจที่เพิ่งออกจากสถานบำบัดอาการติดเหล้า มีโอกาสได้มาทำงานเฝ้าห้องเก็บศพในกะกลางคืน

หนังเปิดเรื่องมาได้ค่อนข้างดีเลย พิธีไล่ผีทำได้น่ากลัวมากเลยทีเดียว แม้ว่าจะไม่ได้เล่าเรื่องหรือที่มาของผีตนนี้ แต่หนังก็ทำให้เห็นเลยว่าผีตนนี้มีอำนาจร้ายแรงขนาดไหน

แล้วหนังก็ตัดไปอีก 3 ปีข้างหน้าเลย มันเลยเกิดคำถามคาใจว่า มันหายไปไหนกันแน่ ยังอยูู่ไหม หรือหายไปแล้วจริงๆ จนกระทั่งศพของ ฮันนาห์ เกรซ ถูกย้ายมายังสถานที่ เมแกน ทำงานอยู่นั่นแหละ คนดูอย่างเราถึงจะรู้ว่าผีตนนั้นยังไม่ไปไหนหรอก 

พอหนังพาศพของ ฮันนาห์ เกรซ กลับมาคนดูอย่างเราก็เริ่มคาดหวังแล้ว ว่าเขาจะเล่าเรื่องราวยังไงต่อ จะสานต่อความน่ากลัวจากตอนต้นเรื่องยังไงดี ซึ่งก็ไม่ทำให้คนดูอย่างเราผิดหวัง

การหายไปสามปีของผีตนนั้นซึ่งจริงๆ ก็ไม่ได้หายไปไหนเพียงแต่ว่าหนังไม่ได้เล่าเรื่องราวในส่วนนั้น มาบอกเอาไว้นิดๆว่าที่ร่างของ ฮันนาห์ เกรซ มีรอยไหม้ตามตัวเพราะว่าพ่อเธอต้องการทำลายร่าวนั้นทิ้ง

หากไม่ทำร้ายวิญญาณร้ายก็จะฆ่าคนและฟื้นสภาพของร่างกายกลับมา มีแต่การเผาเท่านั้นที่สามารถกำจัดวิญญาณร้ายตนนี้ได้

ด้วยความยาวที่ไม่นานของหนัง แต่สามารถสร้างความเครียด และความน่ากลัว ตลอดระยะเวลาของเรื่องเลย ถือว่าดำเนินเรื่องได้น่าประทับใจมากๆ เล่นกับอารมณ์ของคนดู่ได้อยู่หมัดเลย

 ข้อดีข้อแรกเลยคือการใช้นักแสดงหลักเพียงคนเดียว ในการดำเนินเรื่อง แต่เอาคนดูอยู่หมัดเลย ข้อดีถัดมาคือการสร้างบรรยกาศของเรื่อง การใช้แสงสลัวๆ แสงไฟน้อยๆ คอยบิวต์คนดู และใส่เพลงเข้ามาเรื่อยๆ บอกเลยว่ากระตุ้นอามรณ์ความกลัวของคนดูได้ดีมากๆ

ข้อดีอีกข้อคือการแต่งศพของ ฮันนาห์ เกรซ มันน่ากลัวและดูสมจริงมากๆ อย่าว่าแต่ตัว เมแกน กลัวเลยคนดูแบบเราก็รู้สึกหลอนหนักเหมือนกันที่เห็นศพของเธอ

สำหรับข้อด้อยของหนังเรื่องนี้คือการปูภูมิหลังของตัวละคร เมแกน ให้น่าสงสัยแต่กลับไม่ใช้ประโยชน์อะไรจากตรงนั้นเลย น่าเสียดายมากๆ ข้อด้อยอีกข้อเรามองว่าถ้าความยาวของเรื่องยาวกว่านี้ อาจจะมีอะไรใส่เข้ามาเล่นได้อีกเยอะก็ได้นะ 

ก็นับว่าเป็นหนังสยองขวัญฟอร์มเล็ก แต่ทำความสยอง และความน่าสกลัวออกมาได้ดีมากเลย ด้วยความยาวของเรื่องที่ไม่ยาวมาก แต่สามารถทำให้คนดูจดจ่อกับตัวหนังเอาไว้ได้จนจบเรื่องเลยเนี่ย เราว่าทีมงานเขาคิดมาแล้วว่าคนดูต้องการดูอะไร

แต่ถ้าคนที่ดูหนังสยองขวัญมาเยอะๆ ก็จะสามารถเดาได้เลยว่า จังหวะไหน หนังจะเล่นหรือเล่าเรื่องยังไง ผีจะออกมาตอนไหน ความสยองของหนังเรื่องนี้ไม่ใช่การเล่นฉากตุ้งแช่ออกมาเยอะๆ แต่เป็นสถานการณ์ความตึงเครียดแทน กับบรรยกาศของห้องเก็บศพยามค่ำคืน

เราชอบที่หนังค่อยๆไล่ระดับความน่ากลัว ขึ้นมาทีละนิด จากน้อยๆและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนถึงจุดพีคของเรื่องเลย หนังใส่บรรดาตัวละครดวงซวยเข้ามาเป็นเหยื่อให้ นนาห์ เกรซ สังหารเล่นไปดื้อๆซะงั้น กลายเป็นในช่วงท้ายดูเป็นหนังไล่เชือดมากกว่าการเป็นหนังผีเสียอีก

ถึงจะไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่มากสำหรับหนังเรื่องนี้ เป็นหนังผีสูตรสำเร็จที่มาพร้อมกับการเล่นสนุกกับบรรยกาศของสถานที่ ที่มันดูหมองๆ หม่นๆ น่ากลัวยามค่ำคืน ของห้องเก็บศพ

การเอาปมของตัวละครมาเป็นตัวตัดสินใจในการแก้ไขสถานการณ์ตรงหน้า แต่เมื่อถึงบทสรุปของเรื่องก็ไม่ได้สร้างความตื่นตา หรือความรู้สึกว้าวอะไรให้กับคนดูเลย

ก็เป็นหนังผีที่ดูสนุก มาพร้อมกับพล็อตเรื่องผีสิงร่าง และการสร้างความหลอนของสถานที่ ตัวเนื้อเรื่องมีความน่าสนใจแค่ช่วงแรกๆเท่านั้น แต่พอมาช่วงท้ายๆก็ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ แถมบทสรุปของเรื่องก็เฉยๆเอามากๆอีกด้วย กลายเป็นหนังผีที่ความยาว 1 ชั่วโมง 26 นาที ที่เอาไว้ดูก่อนนอนเท่านั้น

ใครที่โหยหาความสยองขั้นสุดของหนังผีแล้วเนี่ย เรื่องนี้ไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่นะ สำหรับเรื่องนี้ผู้เขียนให้ 7/10 คะแนนเลย ก็น่ากลัว สยองขวัญ ปั่นประสาทคนดูได้อย่างดี เนื้อเรื่องคาดเดาได้เยอะ แต่ก็ยังดูสนุก บรรยกาศของเรื่อง

และการค่อยๆไล่ระดับความหลอน ความน่ากลัว หนังเขาทำออกมาได้ดีมากๆ เลยแหละ เอาเป็นว่าใครที่กำลังมองหาหนังผีที่ไม่ได้น่ากลัวจนดูไม่ได้แล้วเนี่ย

เรื่องนี้ถือว่าตอบโจทย์อย่างแน่นอน หนังไม่ยาวมากด้วยดูแปปเดียวก็จบแล้ว แล้วไปพบกับความหลอนของ ห้องเก็บศพ กันได้ด้วยตาของคุณเอง