ขอต้อนรับสู่มหกรรมการสยองที่ทุก 90 ปีมีแค่ 1 ครั้งกับ Midsommar เทศกาลสยอง ดูหนังชนโรง ภาพยนตร์เขย่าขวัญสั่นประสาทจาก Ari Aster ผู้กำกับภาพยนตร์สยองสายแหวก ที่เคยทำคนดูขวัญผวากับ Hereditary กรรมพันธ์ุนรก

และปีนี้เขาได้พาคนดูกล่าวสู่ดินแดนอันสว่างสดใสแต่ทุกลมหายใจกับเต็มไปด้วยความสะพรึง กับผลงานที่ให้กลิ่นอายความเป็น Folk Horror หนังสยองขวัญตำนานพื้นบ้าน ที่เล่นสยองพิธีกรรมลึกลับในหมู่บ้านที่ห่างไกลความเจริญและความน่ากลัวของวัฒนธรรมอันแปลกที่คนภายนอกไม่อาจเข้าใจได้  เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ลุ้นระทึกแค่ไหนเรามาติดตามไปพร้อมกัน ระทึกขวัญฝรั่ง

รีวิวหนัง Midsommar เทศกาลสยอง

รีวิวหนัง Midsommar เทศกาลสยอง ทุ่มความตั้งใจเนรมิตความสยอง

เพื่อเนรมิตความสยองกลางอาทิตย์ ผู้กำกับ Ari Aster ต้องจับมือร่วมกับผู้ออกแบบงานสร้าง Henrik Svensson เพื่อสร้างหมู่บ้านอักแสนโดดเดี่ยวและแสนห่างไกลขึ้นมาใหม่ในฮังการีที่มองผ่านๆแล้วดูสวยสดใสแต่ถ้าเจาะลึกลงในรายละเอียดก็จะพบกับความน่ากลัวของตำนานนอร์ดิก ที่ไม่ได้มีให้เห็นบ่อยนักบนจอภาพยนตร์

นอกจากบรรยากาศความสยองของ Folk Horrorแล้ว อีกหนึ่งแรงบันดาลใจของผู้กำกับนั่นก็คือหนัง The Wizard of OZ ที่ว่าด้วยเรื่องราวของสาวน้อยที่หลุดเข้าไปอยู่ในพื้นทีอันแสนแปลกประหลาด

ผสมเข้ากับอารมณ์ความเจ็บปวดที่เกิดจากความสัมพันธ์ไม่เป็นท่า ระหว่างพระเอกและนางเอก จึงทำให้ The Wizard of OZ เวอร์ชั่นวิตถาร ที่มาพร้อมกับฉากสะเทือนขวัญ

รีวิวหนัง Midsommar เทศกาลสยอง

ขัดต่อศีลธรรมแรงจนคว้าเรทฉายที่ 20+ ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีห้ามดูเป็นอันขาดในประเทศไทย ดังนั้นเตรียมตัว เตรียมใจให้พร้อม เพราะนี่ไม่ใช่หนังที่เหมาะสำหรับทุกคน 

นอกจากเป้นผลงานจากผู้กำกับมาแรงแล้ว  Midsommar ยังมาพร้อมกับนักแสดงดาวรุ่งตั้งแต่ Florence Pugh ,Jack Reynor และ Will Poulter มาร่วมกันต่อคิวมหกรรมความสยองแห่งปี ที่ได้รับชมแล้วจะทำให้ลืมไม่ลงกันเลยทีเดียว ความสยองที่ไม่ได้มาพร้อมกับความมืดเสมอไปเพราะที่นี่หลอกกันกลางวันสนั่น

เรื่องราวของกลุ่มนักศึกษา

เรื่องนี้เล่าถึงกลุ่มนักศึกษา 5 คนที่เรียนคณะมนุษยวิทยากำลังหาหัวข้อทำ Thesis ได้เดินทางไปยังสวีเดน เพื่อเข้าร่วมเทศกาลเฉลิมฉลองกลางฤดูร้อนในหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในป่าที่นี่พวกเขาได้พบกับพิธีกรรมและความเชื่อโบราณที่แปลกประหลาดและน่าขนลุก จะถอนตัวหนีไปก็สายเสียแล้วเมื่อเข้ามาแล้วก็ไม่มีใครได้กลับออกไปอีกเลย

หนังเรื่องนี้เป็นหนังสยองขวัญและเป็นหนังสยองขวัญที่แปลกไปจากภาพจำที่เราคุ้นชินด้วยภาพที่สว่างไสวตลอดทั้งเรื่อง ไม่มีฉากจัมพ์สแกรให้ตกใจ บรรยากาศ ในหมู่บ้านก็้ไม่ได้น่ากลัวซ้ำยังดูสงบและน่าอยู่อีกตั้งหาก 

แต่ชาวบ้านในเรื่องดูแปลกและไม่น่าไว้ใจเป็นอย่างมาก พวกเขามีความเชื่อแปลกๆที่ผิดไปจากโลกภายนอก ค่านิยมวิปริตที่ดูเหมือนจะผิดศีลธรรมในโลกที่ศรีวิไลซ์อย่างในโลกปัจจุบัน แถมทุกคนในหมู่บ้านยังโอเวอร์แอคติ้งเล่นใหญ่จนน่าหวาดระแวง

หนังเปิดมาด้วยแดนนี่นางเอกของเรื่องที่กำลังกระวนกระวายใจเพราะน้องสาวของเธอที่เป็นไบโพล่าขาดการติดต่อไปแล้วสิ่งที่แดนนี่กลัวก็เกิดขึ้นน้องสาวของเธอฆ่าตัวตายพร้อมกับพ่อแม่ด้วยการต่อท่อจากท่อไอเสียรถยนต์เข้ามาในห้องนอน 

แดนนี่ไม่เหลือคนในครอบครัวแล้ว จะมีก็แต่คริสเตียนแฟนหนุ่มที่เริ่มห่างเหินเธอคริสเตียนเรียนมหาวิทยาลัยคณะมนุษยวิทยาซึ่งกำลังหาหัวข้อมาทำ Thesis ในกลุ่มของเขามีจอร์จ,มาร์ค และเพลเล่เป็นคนสวีเดนมาเรียนที่อเมริกาเขาเกิดและเติบโตที่หมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่งในป่าและเร็วๆนี้ ที่หมู่บ้านกำลังจะมีเทศกาลฉลองกลางฤดูร้อน

รีวิวหนัง Midsommar เทศกาลสยอง

ซึ่งเพลเล่คิดว่าน่าสนใจสำหรับเพื่อนคนอื่นๆและอาจเป็นแรงบันดาลใจให้เพื่อนๆคิดหัวข้อทีสิสจบออก  คริสเตียนชวนแดนนี่เป็นสวีเดนด้วยถึงแม้เขาอยากจะห่างเหินกับเธอแต่ก็ไม่ใจร้ายถึงขั้นทิ้งให้เธออยู่คนเดียวตอนที่เธอกำลังมีสภาวะจิตใจเช่นนี้

ทั้งหมดเดินทางไปยังหมู่บ้านที่อยู่ในป่าและพบกับนักท่องเที่ยวคนอื่นอีก 2 คนคือ ไซม่อนและคอนนี่ทุกคนได้รับการต้อนรับอย่างดีจากคนในหมู่บ้านพิธีเฉลิมฉลองกลางฤดูร้อนที่ 90 ปีนี่ 1 ครั้งจัดยาวถึง 9 วัน 9 คืนช่วยเริ่มต้นก็ทำให้แขกผู้มาเยือนช็อคด้วยพิธีกรรมเครื่องคู่อาวุโสที่อายุเกิน 72 ปี 2 คนชายหญิงทำการกระโดดลงมาจากหน้าผาเพื่อฆ่าตัวตาย

ด้วยหัวหน้าหมู่บ้าน อธิบายว่าคนที่อายุเกิน 72 ปีคือสิ้นสุดวัฏจักรของชีวิตแล้วควรจะไปด้วยฝีมือของตนเองเพื่อคืนสู่ธรรมชาติอย่างทรงเกียรติดีกว่ารอวันตาย ด้วยโรคภัยไข้เจ็บอย่างทรมานและน่าเวทนาทุกคนในหมู่บ้านไม่มีใครกลัวที่จะต้องทำพิธีนี้ในอนาคตซ้ำยังยินดีซะอีกหากโอกาสนั้นมาถึง

ไม่มีใครคนไหนรับได้กับประเพณีอย่างนี้โดยเฉพาะไซม่อนและคอนนี่ที่ถึงขั้นเก็บกระเป๋าจะกลับบ้าน ในทางกลับกันคริสเตียนและจอร์จเริ่มสนใจที่จะทำ Thesisเกี่ยวกับหมู่บ้านนี้ ซึ่งผู้อาวุโสบอกว่าให้ทำได้ตั้งแต่ห้ามใส่ชื่อจริงคนในหมู่บ้านและห้ามบอกว่าหมู่บ้านอยู่ที่ไหน

เทศกาลสยองกับความเชื่ออันแปลกประหลาด

ชาวนอร์ส หรือชื่อที่เราคุ้นเคยจากสื่อต่างๆ ว่าชาวไวกิ้ง ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของประเทศในยุโรปเหนือ โดยศาสนาดั้งเดิมที่เป็นรากฐานของประเพณี-พิธีกรรมต่างๆ ของผู้คนในแถบนี้มีรากฐานมาจากปกรณัมนอร์ส (Norse Mythology) มีลักษณะแบบพหุเทวนิยม

 หรือการนับถือเทพเจ้าหลายองค์ โดยมี โอดิน (Odin) เป็นเทพสูงสุด ซึ่งศาสนาดั้งเดิมและความเชื่อท้องถิ่นเหล่านี้ทรงอิทธิพลและเป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตของผู้คนก่อนการเข้ามาของศาสนาคริสต์

และด้วยฤดูร้อนที่มีระยะเวลาสั้นมากในประเทศแถบสแกดิเนเวีย ทำให้ช่วงเดือนพฤษภาคมของทุกปีจะมีการจัดเทศกาลฤดูร้อน หรือ Midsummer Festival ซึ่งเป็นเทศกาลที่เริ่มต้นมาจากศาสนาดั้งเดิม ก่อนจะกลายเป็นวันสำคัญทางศาสนาคริสต์ 

รีวิวหนัง Midsommar เทศกาลสยอง

โดยรูปแบบเทศกาลที่มีการใช้เสาเมย์โพล (Maypole) เป็นศูนย์กลางของงาน ถูกริเริ่มที่ประเทศเยอรมนีในยุคปลายศตวรรษที่ 17 หรือปลายศตวรรษที่ 18 โดยชาวสวีดิชรวมถึงประเทศอื่นๆ ในแถบยุโรปก็ยังคงมีการจัดเทศกาลฤดูร้อนตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน 

พิธีกรรมการกระโดดหน้าผาอันเป็นฉากที่สร้างความตกตะลึงแก่ผู้ชม เป็นพิธีกรรมที่ถูกกล่าวถึงในมหากาพย์โบราณของชาวสวีเดนที่ชื่อว่า ‘Gautreks Sagas’ ซึ่งคำว่า Ättestupa เป็นทั้งคำที่ใช้เรียกหน้าผาที่มีอยู่มากมายในลักษณะภูมิประเทศของสวีเดนและไอซ์แลนด์ และยังหมายถึงพิธีกรรมกระโดดหน้าผาเพื่อจบชีวิตของตัวเอง

มหากาพย์ดังกล่าวได้อธิบายถึงการฆ่าตัวตายนี้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อคนเฒ่าคนแก่ไม่สามารถดูแลตัวเอง ไม่มีความสามารถในการเป็นที่ปรึกษาของคนในชุมชนได้อีกต่อไป พวกเขาต้องกลายเป็นภาระให้ลูกหลานต้องเลี้ยงดู แทนที่จะทนมีชีวิตอยู่กับความทรมาน พวกเขาเลือกจะขึ้นไปที่หน้าผาในละแวกหมู่บ้านเพื่อจบชีวิตของตัวเองจากโลกใบนี้ แล้วมีชีวิตใหม่กับมหาเทพโอดิน 

ซึ่งมีความแตกต่างไปจากในภาพยนตร์เรื่อง Midsommar ที่นำเสนอว่าพิธีกรรมนี้จะเกิดเมื่อคนมีอายุ 72 ปี และเมื่อประกอบพิธีกรรมแล้ว ชื่อของพวกเขาจะถูกสืบทอดต่อในเด็กทารก เพื่อเป็นสัญญะของการเกิดใหม่และวัฏจักรของชีวิตที่หมุนวนไปในชุมชน

หมู่บ้านและตำนานปีศาจพื้นบ้าน

แม้ว่าชื่อหมู่บ้าน Hårga จะมีอยู่จริงในตอนกลางของสวีเดน แต่หมู่บ้านที่ปรากฏในภาพยนตร์นั้นไม่ได้อ้างอิงมาจากเรื่องจริงเชิงประวัติศาสตร์แต่อย่างใด

 โดยคำว่า Hårga ที่ถูกใช้เป็นชื่อหมู่บ้านที่สามารถสืบค้นกลับไปถึงบทเพลงสำหรับเด็กที่เป็นตำนานพื้นบ้านของสวีดิชในชื่อ The Song of Hårga หรือ Hårgalåten ที่เล่าเกี่ยวกับปีศาจที่จำแลงกายมาเป็นนักไวโอลิน และบังคับให้ชาวบ้านเต้นจนกว่าจะตาย 

ดูหนังชนโรง

ตำนานพื้นบ้าน, บทเพลง Hårga, การแข่งขันเต้นคัดเลือก (Hälsingehambon) และเมย์โพล (Maypole) นั้นมีปรากฏมาตั้งแต่อดีต และยังคงสืบทอดเป็นประเพณีมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งตำนานดังกล่าวถูกเล่าในภาพยนตร์ก่อนที่จะเริ่มการแข่งขันคัดเลือกราชินีแห่งเดือนพฤษภาคม

รีวิวหนัง Midsommar เทศกาลสยอง พิธีกรรมความเชื่อจากเรื่องจริง

การนำเอาความเชื่อแบบคติชนวิทยา (Folklore) ในแถบสแกนดิเนเวีย ที่มีรากฐานความเชื่อจากศาสนาท้องถิ่นก่อนการเข้ามาของศาสนาศริสต์ มาสร้างสรรค์ในแง่มุมอันสยดสยองที่ฉาบหน้าด้วยความสวยงามและอ่อนหวาน ผ่านเรื่องราวของลัทธินอกรีต (Scandinavian Pagan Cult) มีความเชื่อแบบสุดโต่งที่ดำเนินมาหลายร้อยปีและยังคงความเข้มข้นอยู่ในหมู่บ้าน Hårga 

โดยหากดูจากในภาพยนตร์เราจะเห็นพิธีกรรมที่แปลกตามากมาย เช่น การสังเวยชีวิตของคนในหมู่บ้าน ประเพณีการกระโดดลงจากหน้าผาของคนเฒ่าคนแก่ และการคัดเลือกราชินีแห่งเดือนพฤษภาคม (Queen of May)

ดูหนังชนโรง

พิธี Ättestupa นั้นถือได้ว่าเป็นพิธีกรรมของชาวนอร์สในยุคก่อนศาสนาคริสต์ที่มีการกล่าวถึงในมหากาพย์ Gautreks และมุขปาฐะเรื่องเล่าที่ไหลเวียนในชุมชน แต่ไม่มีหลักฐานบันทึกถึงการสืบทอดและการปฏิบัติของพิธีกรรมดังกล่าวอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร ว่ามีกลุ่มคนที่สืบทอดพิธีกรรมนี้อยู่จริงหรือไม่ ทำให้พิธีกรรมนี้มีสถานะเป็นตำนานและเรื่องเล่ามากกว่าเรื่องจริงทางประวัติศาสตร์

แต่ในขณะเดียวกัน นักมานุษยวิทยาและนักประวัติศาสตร์บางกลุ่มเชื่อว่า หลักฐานที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษรหรือตำนานคำบอกเล่าในชุมชน ก็ถือเป็นหลักฐานที่บ่งบอกถึงการมีอยู่ของความเชื่อและหลักปฏิบัตินี้เช่นกัน 

โดยการปรากฏของพิธี Ättestupa ในโลกยุคปัจจุบันถูกกล่าวถึงในสื่อ ได้แก่ รายการวิทยุ Mosebacke Monarki ในช่วงปี 1960, ซีรีส์คอเมดี้ Norsemen ในปี 2016 และ Midsommar ในปี 2019

บทสรุปและรีวิวจากผู้เขียน

เป็นภาพยนตร์ที่จะพาเราไปทำความรู้จักกับตำนานและความเชื่อพื้นบ้านของชาวสวีดิชที่อยู่อีกมุมโลกหนึ่ง นำเสนอผ่านสื่อกระแสหลักได้อย่างมีเอกลักษณ์ นอกเหนือจากพิธีกรรมที่ปรากฏอย่างชัดเจนที่เราได้เอามาเล่าให้ฟัง 

ในภาพยนตร์ยังหยิบองค์ประกอบจากสังคมสวีดิชยุคก่อนการเข้ามาของศาสนาคริสต์มาใช้ได้อย่างลื่นไหล เช่น รูปวาดต่างๆ ที่ใช้บอกใบ้ถึงเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น, การทำยาเสน่ห์, การมีความสัมพันธ์ในเครือญาติใกล้ชิด (Incest), เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย, สถาปัตยกรรม และอักษรรูน ฯลฯ 

ดูหนังชนโรง

เรียกได้ว่าเป็นเสน่ห์ของภาพยนตร์ที่จะทำให้ผู้ชมได้เก็บรายละเอียดและมองหาคำบอกใบ้และสัญญะต่างๆ ทำให้ภาพยนตร์มีการเล่าเรื่องที่มีมิติมากขึ้น

ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี 2019 ครับ หนังเรื่องนี้ได้รับความสนใจจากผู้ชมและวิจารณ์หลายคนด้วยเรื่องราวที่เข้าข้อความและภาพลักษณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ เขียนและกำกับโดย อารี่ อสเตอร์ (Ari Aster) ถ้าคุณชอบภาพยนตร์แนวสยองขวัญที่ท้าทายและซับซ้อน คุณจะต้องไม่พลาดความสยองในทุ่งอันสดใสกับ Midsomma 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *