รีวิวหนัง The Perfect Storm มหาพายุคลั่งสะท้านโลก

สวัสดีค่ะและในวันนี้เราจะมา รีวิวหนัง The Perfect Storm มหาพายุคลั่งสะท้านโลก เป็นภาพยนตร์ต่างประเทศ ที่พูดถึงเรื่องความผันผวน ไม่แน่ไม่นอนของท้องทะเล โดยหายนะที่กำลังจะคืบคลานเข้ามา มักที่จะแจ้งเตือนด้วยกระแสลมแรง และนี่คือฝันร้ายของวันฮัลโลวีนใน ปี ค.ศ. 1991

หนังแนวภัยพิบัติ ที่ทำให้รู้สึกถึงความน่ากลัวของพลังธรรมชาติ แต่ว่าตามจริง The Perfect Storm ไม่ใช่หนังภัยพิบัติที่สดใหม่อะไรมาก แต่ความเด็ดของมันคือ การเอาสูตรดั้งเดิมของหนังแนวนี้มาปรุงได้อย่างพอเหมาะพอดี

โดยเรื่องราวกล่าวถึงเรือประมงเคราะห์ร้ายที่ชื่อแอนเดรีย  เกล กับลูกเรือ 6 คนที่ออกทะเลไปล่าปลากระทงแทงดาบ ไกลจากชายฝั่งประมาณ 800 กิโลเมตร ตอนที่พายุโหมกระหน่ำเรื่องนี้แสดงถึงความกล้าหาญของเหล่าบรรดาเรือกู้ภัย ที่พยายามฝ่าอุปสรรคไปช่วยเหลือ ส่วนเรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร ติดตามต่อได้ที่รีวิวข้างล่างนี้ได้เลยค่ะ

รีวิวหนังระทึกขวัญ ผู้กำกับ Wolfgang Petersen เป็นผู้กำกับภาพยนตร์ชาวเยอรมัน ที่มีผลงานกำกับหนังแอ็คชั่นฟอร์มยักษ์ เช่น Air Force One และ Das Boot อีกทั้งยังมีผลงานเรื่องอื่นอีกมากมาย อาธิ Outbreak, Red Corner,  Troy และ Poseidon เป็นต้น 

 

เขายังเคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม สำหรับภาพยนตร์สงครามเรื่อง Das Boot และเคยได้รับรางวัลในปี ค.ศ. 1981 จากบาวาเรียนฟิล์มอะวอดส์ ในสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม

ส่วนในหนัง The Perfect Storm มหาพายุคลั่งสะท้านโลก อันนี้ต้องชมผู้กำกับ Wolfgang Petersen ที่คุมหนังได้อย่างสุดยอด มีสัดส่วนระหว่างดราม่าและภัยพิบัติในระดับเท่าๆกัน ดูแล้วก็อินไปกับความรู้สึกของชาวประมงแต่ละคนที่มีปมชีวิตต่างกันไป บ้างก็หย่าร้างไปแล้ว บ้างก็กำลังจะสร้างครอบครัวใหม่ บ้างก็ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ เรียกว่าทุกคนต่างก็ต้องการเงินมาเพื่อสร้างความสะดวกและโอกาสให้กับชีวิต ดูหนังออนไลน์ 4k

เป็นเวลาหลายร้อยปี ที่โกลเชสเตอร์ ในรัฐแมสซาซูเซต ได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองท่าตกปลาแหล่งสำคัญแห่งหนึ่งในแอตแลนติกเหนือ ในเดือนตุลาคม ปี 1991 มันเป็นที่จอดของเรือตกปลา ที่มีชื่อว่า แอนเดรีย เกล โดยกัปตันบิลลี่ ไทน์ (จอร์จ คลูนีย์) นักตกปลาผู้ช่ำชอง แต่เขากำลังหัวเสียกับเหยื่อที่ตกได้ ข้างๆกันเป็นเรือฮันนาห์ โบเด็น โดย กัปตันลินดา กรีนลอว์ (แมรี่ อลิซาเบธ มาสแตรนโตนิโอ) ซึ่งกำลังยินดีกับความสำเร็จล่าสุด ดูหนัง4k

 

บ็อบบี้ แชทฟอร์ด (มาร์ค วอห์ลเบิร์ก) ต้องการให้รางวัลตอบแทนกับทนายความที่ฟ้องหย่าให้กับเขา และเริ่มต้นชีวิตใหม่กับแฟนสาว คริสติน่า คอตเตอร์ (ไดแอน เลน) การตกปลาเป็นสิ่งเดียวที่เขารู้ว่าเป็นการใช้จ่ายในแบบที่เขาต้องการ ซึ่งตรงข้ามกับความปรารถนาของคริส เขากำลังตกลงเซ็นสัญญากับบิลลี่ สำหรับการเดินทางเที่ยวสุดท้ายของฤดูนี้ นอกจากนี้ยังมีคนอื่น ๆ อีก 4 คน ร่วมเดินทางไปด้วย

 

ไทน์เชื่อว่าเขาสามารถเปลี่ยนโชคเคราะห์ของเขา ด้วยการเดินทางออกไปไกลกว่าจุดหมายปลายทางปรกติของเรือตกปลา นิว อิงค์แลนด์ นั่นคือการมุ่งหน้าไปยัง เฟลมิช แค๊ป ดินแดนห่างไกล ที่ขึ้นชื่อว่าอุดมสมบูรณ์ไปด้วยปลาจำนวนมหาศาล แม้ว่าเขาจะเคยได้ยินเกี่ยวกับพายุที่ก่อตัวใกล้ฝั่ง ตรงข้ามกับกรีนลอว์ ที่เน้นในเรื่องของความปลอดภัย

 

บิลลี่คิดว่าเขาสามารถฝ่าพายุกลับไปที่โกลเชสเตอร์ได้ และมันเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่สำหรับเขา ถ้าไม่พยายาม ลูกเรือของเขาต้องกลับบ้านมือเปล่าในการออกเรือเที่ยวสุดท้ายของฤดูนี้ การเดิมพันชีวิตต่ออาชีพทำมาหากินเป็นเรื่องปรกติสำหรับชาวประมง

แต่สิ่งที่ไม่ปรกติ คือ สภาวะอากาศที่แปรปรวนในขณะที่ แอนเดรีย เกล ออกสู่ทะเล นักพยากรณ์อากาศสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่น ทอดด์ กรอสส์ (คริสโตเฟอร์ แม็คโดนัลด์) รายงานกับคนดูว่า มีการก่อตัวของ เฮอริเคน เกรซ พายุทางตอนใต้ที่มีกำลังแรง และกำลังมุ่งหน้าไปทางแอตแลนติก เกรซ อยู่ในวิถีปะทะกับความกดอากาศอื่นอีกสองแนว และเมื่อทั้งสามมาพบกัน จะทำให้เกิดพายุรุนแรงอย่างที่ไม่มีใครคาดถึง และไม่เคยมีบันทึกในประวัติศาสตร์มาก่อน หนังใหม่4k

 

มันจะถูกเรียกว่า พายุไม่มีชื่อ หรือ พายุฮัลโลวีน เพราะการปรากฏของมันก่อให้เกิดเป็นคืนที่น่ากลัว ที่จริงมันก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว จนกรมอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติประกาศเตือนไม่ทัน พวกเขาจึงไม่สามารถเตือนบรรดาเรือที่ออกทะเลได้ ลูกเรือแอนเดรีย เกล จึงไม่ได้รับคำเตือนล่วงหน้า พวกเขาไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังจะเผชิญกับอะไร

 

ในขณะที่ แอนเดรีย เกล และเรือลำอื่น ๆ รวมทั้งเรือบรรทุกขนาดยักษ์ เรือสินค้า และ เรือใบเล็กขนาด 32 ฟุต พยายามหาทางกลับสู่ฝั่ง กลุ่มคนอีกกลุ่มหนึ่งกำลังมุ่งตรงมาที่พายุ พวกเขาคือ กองกำลังทางอากาศ เครื่องบินของยามชายฝั่ง เฮลิคอปเตอร์ และ ทีมเรือเร็วช่วยชีวิต พวกเขารู้ดีว่าสิ่งที่กำลังจะเผชิญเต็มไปด้วยความรุนแรงและร้ายกาจมากแค่ไหน

 

ความกลัวอย่างที่สุดของพวกเขา เกิดขึ้นกลางทะเลในช่วงฤดูใบไม้ร่วง เมื่อต้องเผชิญกับลมสามกระแสที่พัดมารวมตัวกันเป็นพายุที่มีขนาดและความรุนแรงมากที่สุด เท่าที่เคยปรากฏในประวัติศาสตร์หน้าใหม่

ในส่วนของพล็อตภาพยนตร์นั้น กล่าวถึงความพยายามในการเอาชีวิตรอดของลูกเรือทั้ง 6 ที่อยู่ในเรือ แอนเดรีย เกล แต่เดิมพายุลูกนี้ไม่ค่อยมีใครใส่ใจมากนัก จนกระทั่งมันปะทะเข้ากับมวลอากาศที่สาม ซึ่งเป็นส่วนที่หลงเหลือจาก พายุเฮอริเคน เกรช ที่พัดเอาอากาศร้อนชื้นแบบเขตร้อนมาจากทางใต้ ในวันที่ 29 ตุลาคม 

 

จากอุณหภูมิที่แตกต่างกันมากระหว่างอากาศแห้งเย็นและอากาศร้อนกว่า ทำให้มันทวีความรุนแรงขึ้นจากภาพถ่ายดาวเทียมพายุลูกนี้ดูเหมือนจะเป็นแอ่งน้ำวนสีขาวขนาดใหญ่เส้นผ่าศูนย์กลางของมันกว้างประมาณ 3,200 กม.เลยทีเดียว

 

เรียกได้ว่ายาวจาก จาไมก้าไปจนถึงฝั่ง ลาบราดอร์ พายุลูกนี้กวาดไปทั่วทั้ง มหาสมุทรแอตแลนติกด้วยลมที่มีความเร็วถึง 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมงคลื่นสูงถึง 30 เมตร ถ้าจะเทียบกันง่ายๆก็สูงประมาณตึก 10 ชั้นเลยทีเดียวพายุนี้กินเวลายาวนานเกือบ 5 วัน

พายุลูกนี้ก็หมุนด้วยกำลังมหาศาล อิทธิพลของมันทำให้แนวกำแพงกั้นน้ำและบ้านเรือนตามบริเวณชายฝั่งจนชายหาดหลายแห่งหายไปเลยทีเดียว มันสร้างความเสียหายมหาศาล นอกจากนี้ยังมีคลื่นสูงถึง 9 เมตรซัดถล่มชายหาดไล่ลงมาตั้งแต่ นอร์ทคาโรไลนา ถึง โนวาสโกเชีย 

ทุกคนบนเรือได้สิ้นหวังในความพยายาม และสุดท้ายสิ่งที่จะต้องยอมรับก็คือ เราไม่สามารถสู้กับธรรมชาติอันน่ากลัวและมีพลังงานยิ่งใหญ่ มนุษย์มักพยายามที่จะฝืนและต่อสู้กับธรรมชาติ จนลืมไปว่าเรานั้นเป็นเพียงแค่สิ่งมีชีวิตที่เล็กเพียงใด เมื่อเทียบกับพลังธรรมชาติ

งานด้าน Effect จัดว่าดีทีเดียว ดูลุ้นระทึกและทำให้เรารู้สึกดูไปแล้วเหมือนเราโดนน้ำกระเด็นใส่ไปด้วย มันให้อารมณ์ขนาดนั้นจริงๆ

ดาราแต่ละคนก็มีจุดเด่นที่ทำให้เราจดจำได้ ไม่ว่าจะ George Clooney, Mark Wahlberg, Diane Lane, John C. Reilly, William Fichtner, John Hawkes และ Mary Elizabeth Mastrantonio ทุกคนทำให้เราเชื่อว่า พวกเขาคือชาวประมง และทำให้เชื่อว่าเป็นคาแรคเตอร์นั้นจริงๆ ได้อย่างสนิทใจทีเดียว

หนังถือว่าครบเครื่อง ทั้งดราม่าที่ทำให้เรารู้จักแต่ละตัวละครในระดับที่น่าพอใจ ตามด้วยฉากตื่นเต้นกลางทะเลที่ทำให้เราลุ้นได้ตลอด และที่ลืมไม่ได้คือดนตรีชั้นเยี่ยมของ James Horner ผู้ล่วงลับ ท่วงทำนองแบบนี้หาฟังได้ยากจริงๆ

โดยสรุปหนังไม่มีเรื่องราวอะไรมาก สร้างจากเรื่องจริง ดราม่าบนบกไร้ค่าน่าเบื่อ แต่บนเรือสนุกระทึกจนแทบลืมหายใจ ดูเพลินๆ แบบไม่คิดอะไรมากก็สนุกดี มีติดนิดหน่อยตรงที่ตัวหนังไม่ได้เน้นการเอาตัวรอดจากอุปสรรคต่างๆอะไรมากมาย ซึ่งสุดท้ายแล้ว หนังก็สอนในเรื่องของความหวัง ความศรัทธา การเชื่อในความรู้สึกของตัวเอง การเคารพการตัดสินใจของผู้นำ และการทำตามกฎหมู่อย่างมีสติ

 

ถือเป็นหนังภัยพิบัติที่สะท้อนความจริงของการเป็นคนที่ต้องขวนขวายแบบปากกัดตีนถีบได้ดี 

 

เกร็ดเล็กๆ ของหนังก็คือ แรกเริ่มเดิมทีบท บ็อบบี้ แชทฟอร์ด ของ มาร์ค วอห์ลเบิร์ก นั้นจะแสดงโดย นิโคลัส เคจ แต่พอดีตอนนั้น นิโคลัส เคจ ติดสัญญาหนังเรื่องอื่นเลยพลาดบทนี้ไป จากนั้น จอร์จ คลูนีย์ ก็เป็นคนเสนอชื่อ มาร์ค วอห์ลเบิร์ก ให้ผู้กำกับ ว็อล์ฟกัง เพเทอร์เซิน ลองพิจารณาดู

แล้วในวันแคสติ้ง มาร์ค วอห์ลเบิร์ก ก็เดินมาจับมือกับผู้กำกับ ว็อล์ฟกัง เพเทอร์เซิน แล้วทันใดนั้นผู้กำกับ ว็อล์ฟกัง เพเทอร์เซิน ก็รู้ทันทีว่าคนนี้แหละคือ บ็อบบี้ แชทฟอร์ด เลยมอบบทนี้ให้ มาร์ค วอห์ลเบิร์ก ไปเลยโดยไม่ต้องแคสอะไรให้มากความ

 

ตัวหนังนั้นลงทุนในระดับ $140 ล้าน แต่ก็สามารถทำเงินคืนมาได้ $328 ล้านจากทั่วโลก (เฉพาะในอเมริกาก็ทำไป $182 ล้านแล้ว) เป็นอีกหนึ่งผลงานทำเงินแห่งปีนั้นเลยทีเดียว

เรื่องนี้ได้ฟิลมากๆเลย จำได้ว่าตอนที่หนังเรื่องนี้ในวันแรกๆ ผู้เขียนได้ซ้อนมอเตอร์ไซค์เพื่อนฝ่าฝนไปดูในโรงหนังช่วงรอบค่ำ แล้วตัวเปียก ตากแอร์นั่งหนาวสั่นทั้งเรื่อง เป็นประสบการณ์ที่มันมากๆ

 

ตอนฝ่าพายุเนี่ยเหมือนอยู่ท่ามกลางคอนเสิร์ต EDM ชอบการสร้างสเปเชี่ยลเอฟเฟคในเรื่องมาก มันดูสมจริงดีอย่างกับไปอยู่ในท้องทะเลจริงๆ ทั้งๆที่ถ่ายอยู่ในสตูดิโอ มันพามาปลายคลื่นลูกใหญ่แบบสุดระทึก ถ้าพ้นไปได้ก็คงเฮลั่น แต่เรื่องนี้เลือกให้ดำดิ่งลงไปในห้วงลึก รู้สึกแบบเสียดายชะตากรรมของทุกๆคน ที่ไม่ใช่แค่คนบนเรือ แต่ทุกคนในเรื่องล้วนแต่เจอเรื่องราวที่เจ็บปวดด้วยกันทั้งนั้น

อีกอย่างเป็นหนังที่ลุ้นสุดๆ เพราะพยายามให้กำลังใจและเอาใจช่วยตัวละครอยู่ตลอดเวลา ซึ่งฉาก มาร์ค วอห์ลเบิร์ก กับ จอร์จ คลูนีย์ ในตอนท้ายยังตราตรึงใจ สมชื่อเพอร์เฟคสตอร์มจริงๆ