หนังใหม่ชนโรง ถ้าพูดถึงหนังสยองขวัญยุโรป คอหนังสยองขวัญคงหนีไม่พ้นความหลอนและความน่ากลัวของหนังผีสเปน ที่โหด ดุดัน และมาพร้อมบรรยากาศชวนขนหัวลุก

แทบทุกวินาทีจนติดอันดับต้นๆที่คอหนังผีต้องห้ามพลาด นับตั้งแต่ The Devil’s Backbone หนังสยองขวัญกลิ่นอายแฟนตาซี ของสุดยอดผู้กำกับ Guillermo Del Toro ระทึกขวัญฝรั่ง

รีวิวหนัง Malasana Street (2020)

รีวิวหนัง Malasana Street (2020) เรื่องหลอนของอพาร์ทเมนต์ผีสิง

Malasana Street ย่านผีอยู่ที่สร้างมาจากเรื่องจริงกลางกรุงมาดริด ประเทศสเปน เป็นที่พักอาศัยใหม่สำหรับครอบครัวที่เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่แต่หารู้ไม่ว่าห้องจะได้มาในราคาที่เป็นมิตร นั้นแต่สถานการณ์รับรองนั้นเขาไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย

ปี 1972 เริ่มเรื่องมาที่บ้านพักอพาร์ทเม้นท์ กรุงมาดริด ประเทศสเปน มีเด็กพี่น้อง 2 คนกำลังแย่งลูกแก้วกันจนลูกแก้วนั้นในกลิ้งตกไปที่หน้าห้องหญิงชรารายหนึ่ง ซึ่งดูท่าทีเด็กสองพี่น้องนี้จะกลัวเป็นอย่างมากแล้วคนน้องกลับไปเชื่อฟังคำว่าพี่ชายที่คอยให้กลับไป

ในเมื่อน้องมาถึงหน้าประตูแล้ว ลูกแก้วกับกิ่งเข้าไปอยู่ข้างในห้องนั้นน้องชายที่กลัวจะเสียลูกแก้วไป

ก็เปิดประตูเข้ามาพร้อมกับกล่าวคำทักทายแต่กลับไม่มีเสียงตอบรับจากในห้องๆเมื่อเด็กชายเดินตามลูกแก้วที่อยู่ลึกเข้าไปในห้อง ลูกแก้วก็ค่อยๆกลิ้งเข้าไปจนถึงเก้าอี้ที่ดูเหมือนจะมีหญิงชรารายหนึ่งนั่งอยู่

รีวิวหนัง Malasana Street (2020)

เด็กน้อยเดินเข้าไปไกลในจุดลูกแก้วอยู่เมื่อเด็กน้อยก้มลงจะหยิบลูกแก้ว ร่างของหญิงชราบนเก้าอี้กลับมีการกระตุกขึ้นมา ทำให้เด็กน้อยนั้นตกใจวิ่งหนีออกไป

4 ปีต่อมาปีที่ 1976 ครอบครัวของอันเมย์โดว์ ที่เพิ่งจะย้ายออกมาจากชนบทเพื่อที่จะมาอยู่ในบ้านหลัง ที่อพาร์ตเม้นท์แห่งนี้ซึ่งประกอบไปด้วย

พ่อเลี้ยงคนใหม่ของทุกคน ก็ผู้หญิงที่เป็นภรรยาของพระเอก ทั้งสองมีลูกคนเล็กสุด ชื่อว่าราฟาเอลและลูกชายคนโตที่มีชื่อว่าเปเป้แล้วก็นางเอก คุณตา เมื่อทั้งครอบครัวลงรถมาทนายก็เข้ามาทักทายและพาขึ้นไปที่ห้องแต่ทว่ากลับไปห้องที่เคยมีหญิงชราอยู่ในต้นเรื่องนั้น

ทนายกำลังจะไขกุญแจกลับมีท่าทางมือไม้หันไปด้วย เมื่อทั้งครอบครัวและย้ายของขึ้นมาทั้งหมดทนายต้องขอตัวกลับไปและอวยพรให้ทุกคนนั้นมีความสุข หลังจากที่ได้เข้ามาพักอาศัยอยู่ทุกคนในบ้านนี้ก็ต่างเจอเรื่องราวแปลกๆ ที่เกิดขึ้น

ไม่ว่าจะเป็นนางเอกที่เห็นเท้าคนเดินผ่านประตูในตอนที่เธอเดินกลับมาที่ห้องพักหลังจากเดินตามไปดูคุณตาที่ไปเข้าห้องน้ำ แม้แต่คุณตาเองก็เห็นสิ่งแปลกๆในบ้าน ส่วนน้องเล็กกลับพูดอยู่คนเดียวในห้อง และอยู่ๆก็มีลูกแก้วปริศนากลิ้งเข้ามาและเสียงทีวีในห้องนั่งเล่นก็ดังขึ้น น้องเล็กจึงเด็กไปตามเสียง

และตัวการ์ตูนยายแก่ในทีวีก็พูดตอบโต้กับน้องเล็กได้ ตัวการ์ตูนคุณยายนั้นมีชื่อว่า คุณยายเบอร์ต้า ระหว่างนั้นเองนางเอกก็ตามตัวคุณตามาจนถึงข้างล่าง

คุณตาก็ได้พูดว่าจะกลับไร่ น้องเล็กที่นั่งดูวีทีอยู่เกิดอาการกลัว จึงลุกไปปิดทีวีและเขาก็ได้เห็นเงาสะท้อน จู่ๆก็มีมือปริศนามาปิดตาน้องเล็กและน้องเล็กก็ได้หายตัวไป  

เรื่องสยองที่เกิดขึ้นจากเรื่องจริง

“ถนนอัลโตนิโอ กริโล” ย่าน” Malasaña”  ถนนสายเล็กๆ ที่มืดครึ้มที่ดูไม่แตกต่างจากถนนสายอื่น

แต่กลับมีการกลั่นแกล้งจากอำนาจบางอย่างของรัฐบาลในปี 1945 ยุคกลางหลังจากที่สเปนเปิดพรมแดนให้ชาวฝรั่งเศสอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานรกรากก็ส่งผลให้ถนนสายนี้กลายเป็น แหล่งการค้าขนาดใหญ่ 

แต่กลับเสื่อมโทรมลงด้วยคดีอาชญากรรมมากมาย รวมไปถึงคดีฆาตกรรมสุดโหดหลายร้อยคดี คดีฆาตกรต่อเนื่อง และยังรวมไปถึงสุสานทารกจำนวน 9 แห่ง และศพทารกมากกว่าร้อยศพของคลินิกทำแท้งในช่วงสงคราม

หนังชนโรง

ถนนเส้นนี้จึงกลายเป็นถนนที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดต่อตารางเมตรในกรุงมาดริด นอกจากนี้ถนนอัลโตนิโอ กริโลยังเต็มไปด้วยการคอรัปชันและการข่มเหงจากกลุ่มการปกครองที่ส่งผลให้ถนนสายนี้กลายเป็นถนนแห่งอำนาจสีดำ

เปิดคดีที่เกิดขึ้นในเมืองคำสาป

คดีแรก สารกัดกร่อน

ในปี 1909 “Ramona Díaz Castillo” หญิงสาวอัมพาตอายุ 50 ปี เธออาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์หมายเลข 3 บนถนนอัลโตนิโอ กริโล ย่าน Malasaña ชีวิตของเธอเต็มไปด้วยความริษยาอาฆาต

หลังจากที่สามีของเธอขอจบชีวิตคู่และไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กับผู้หญิงสาวสวย เธอจึงสาดกรดกำมะถัน หรือกรดซัลฟิวริกใส่คนรักใหม่ของสามีเธอ สารทำลายผิวหนังและกัดกร่อนผิวหนังจนเกิดความน่ากลัวสยดสยองแก่ผู้พบเห็น

คดีที่สอง: คดีฆาตกรรมช่างตัดเสื้อ

ในวันที่ 8 พฤศจิกายน 1945 พวกเขาพบศพ “Felipe de la Braña Marcos” ช่างตัดเสื้อเชิร์ตฝีมือดี สภาพเขาสวมเสื้อแจ็กเก็ตและกางเกงขายาวอยู่บนเตียง ศีรษะเต็มไปด้วยเลือดบนผนัง ในมือข้างหนึ่งของเขามีกระจุกผมกำแน่นอยู่

หนังสือพิมพ์รายงานข่าวว่าเขาไม่ได้ถูกฆาตกรรมด้วยมีดหรือปืน แต่สันนิษฐานว่าถูกฆ่าตายด้วยค้อนหรือกระบอง

สิ่งที่แปลกคือเขาอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์หมายเลข 3 เพียงลำพัง ประตูปิดตายจากข้างใน และจากหลักฐานกระจุกผมในมือของศพ แสดงถึงการต่อสู้ เอาชีวิตรอด

แต่สภาพห้องกลับไร้ร่องรอยการต่อสู้ และที่น่าขนลุกคือหลังจากเหตุการณ์นี้ 3 ปีกลับมีการพบศพชายคนหนึ่งในตำแหน่งและลักษณะการตายเฉกเช่นเดียวกับ Felipe ทุกประการ

หนังชนโรง

คดีที่สาม: วิปริตฆาตกรรมหมู่

17 ปีต่อมา เช้าวันที่ 1 พฤษภาคม 1962 ช่างตัดเสื้อ “José María Ruiz Martínez” อายุ 48 ปี เขาและครอบครัวอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์หมายเลข 3 ชั้น 3 ประตู D

ช่างตัดเสื้อได้ลงมือสังหารหมู่ “Dolores Bermúdez Fernández” ภรรยาวัย 40 ปี รวมถึง “Juan Carlos, Adela, Susana, Dolores และ José” อายุ 14, 12, 10, 5 และ 2 ปี ลูกทั้งห้าของเขาทีละคนด้วยค้อน ปืน และมีดทำครัว

จากนั้นเขาอุ้มศพลูกของเขาสามคนไปที่ระเบียงและตะโกนเพื่อให้เพื่อนบ้านได้รับรู้ว่า “ฉันคือฆาตกร ฉันรักพวกเขามาก ฉันฆ่าพวกเขาทั้งหมด และพวกเขาจะอยู่ที่นี่

” ก่อนที่เขาจะยิงตัวตาย ตำรวจได้พาบาทหลวงจากวิหารเซนตาเทเรซา มาเกลี้ยกล่อมจากด้านนอกอาคาร แต่กลับไม่เป็นผล เขาตะโกนกลับออกไปว่า “พระเจ้าไม่เคยรับพวกเขาเข้าบัญชี” ก่อนที่เขาจะใช้ปืนปลิดชีพตัวเองท่ามกลางสายตาประชาชน

คดีที่สื่: ศพเด็ก

สองปีต่อมา 10 เมษายน 1964 คดีที่ต้องทำให้ชาวมาดริดตกใจอีกครั้ง เมื่อ “Pilar Agustín Jimeno” หญิงสาววัย 20 ปี อาศัยอยู่ที่ชั้น 1 ของอพาร์ตเมนต์หมายเลข 3

เธอแอบคลอดลูกเองที่บ้านและตัดสินใจฆาตกรรมลูกของตัวเองด้วยการกดน้ำ เพื่อหลีกหนีความเจ็บปวด ความอับอาย และการถูกปฎิเสธจากสังคมในฐานะแม่เลี้ยงเดี่ยว 

และเธอห่อศพทารกด้วยผ้าและซ่อนมันไว้ใต้ลิ้นชักโต๊ะเครื่องแป้ง สองวันถัดมาพี่สาวของเธอได้กลิ่นและพบศพเด็กทารกที่ซ่อนไว้ คดีนี้ถือเป็นคดีอื้อฉาว เธอโดนชาวบ้านรุมประณามสาปแช่งมากที่สุดในยุคสมัยนั้น

ถนนแห่งความตายสู่ปรากฏการณ์ฝันร้ายในภาพยนตร์

จากความน่ากลัวสู่ภาพยนตร์ “32 Malasana Street 32 มาลาซานญ่า ย่านผีอยู่” ภาพยนตร์สยองขวัญแห่งปีจากประเทศสเปนที่ได้แรงบันดาลใจมากมายจากเหตุการณ์จริงอันโหดร้ายที่เกิดขึ้นบนถนนแห่งความตายย่าน “Malasaña” ถ่ายทอดเรื่องราวแห่งความบ้าคลั่งของบ้าน 

รีวิวหนัง Malasana Street (2020)

ผ่านเรื่องราวของ “ครอบครัวอัลเมโด” ที่เพิ่งย้ายจากชนบทเข้ามายังบ้านใหม่เลขที่ 32 ในย่านมาลาซานญ่า กรุงมาดริด พวกเขาทุกคนตื่นเต้นที่ได้เข้ามาใช้ชีวิตในเมืองหลวง ท่ามกลางช่วงเปลี่ยนผ่านสำคัญของประเทศสเปน แต่มีสิ่งที่พวกเขายังไม่รู้

บ้านหลังนี้มีบางอย่างแถมมาด้วย ซึ่งมันไม่ต้อนรับผู้มาเยือนหน้าไหนทั้งนั้น มันพร้อมเปลี่ยนการเริ่มต้นครั้งใหม่เป็นฝันร้ายที่ไม่มีทางลบเลือน

รีวิว Malasana Street (2020) ความสยอง

เป็นหนังสยองขวัญสเปนที่ออกฉายในปี 2020 และได้รับความนิยมมากในวงการภาพยนตร์สยองขวัญโดยรวม ภาพยนตร์นี้มีเรื่องราวที่น่าสนใจและมีความลึกลับที่ทำให้ผู้ชมต้องรายลุคลุ้มในตัวเรื่อง

สร้างความสยองขวัญและตึงเครียด ได้รับความชื่นชมสูงในเรื่องการสร้างความสยองขวัญและความตึงเครียด มีฉากที่ทำให้ผู้ชมต้องตื่นเต้นและต้องกังวลในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับครอบครัวหลักของเรื่อง

การแสดงโดยนักแสดง: นักแสดงใน “Malasaña 32” แสดงบทได้อย่างน่าทึ่ง และสร้างตัวละครที่น่าสนใจ แม้ว่าพวกเขาจะต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่น่ากลัวและน่าสยองขวัญ

รีวิวหนัง Malasana Street (2020)

บรรยากาศและสถานที่ถ่ายทำ: ภาพยนตร์นี้นำเสนอบรรยากาศที่มืดมนและลึกลับของคอนโดมิเนียม Malasaña 32 ในมาดริด สถานที่ถ่ายทำและการออกแบบชุมชนที่เป็นพิเศษทำให้เป็นส่วนสำคัญในการสร้างความรู้สึกและความสยองขวัญในภาพยนตร์

เนื้อเรื่องที่น่าสนใจ:มีความเชื่อมโยงกับเรื่องราวเรื่องจริงของคอนโดมิเนียม Malasaña 32 ในช่วงยุค 1970 และนำเสนอให้ผู้ชมได้พบกับสิ่งมีชีวิตแปลกปลอมและความลึกลับ

สรุปส่งท้ายให้กับหนังสยองขวัญสเปน

32 Malasana Street มาพร้อมกับสูตรสำเร็จของหนังผีที่เคยได้เห็นมาหมดแล้ว ขีดเส้นใต้ได้ว่า…ทุกองค์ประกอบในหนังคือความซ้ำซากและแทบไม่มีอะไรแปลกแตกต่างไปอย่างหนังเรื่องอื่นๆ เลย บทหนังก็เบาหวิว ไร้ซึ่งน้ำหนักและมิติใดๆ

หนังชนโรง

สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดเลยว่า 32 Malasana Street มีความพยายามจะสร้างความหลอนเทียบเท่ากับแฟรนไชส์ “The Conjuring” และพวกเขาก็ทำได้ไม่ถึง ยังค่อนข้างห่างชั้นอยู่มาก

รวมทั้งองค์ประกอบฉากและการออกแบบศิลป์ที่เข้ากับยุคสมัยตามท้องเรื่องออกมาได้อย่างไม่มีที่ติ ทีมนักแสดงก็ดูมีเสน่ห์ทุกคน

โดยสรุปแล้ว 32 Malasana Street เป็นเพียงหนังผีจากสเปนที่ค่อนข้างบุ่มบ่ามในการถ่ายทอดออกมาโดยรวม หนังยังไปไม่สุดสักทาง ไม่ได้หยิบเอาตำนานที่เล่าขานกันมามาขยี้ต่อให้ดูน่าสนใจ หลังนำเสนอเพียงเรื่องราวในมุมเดียวที่ออกมาเป็นหนังที่พยายามจะหลอกหลอนคนดูเรื่องหนึ่งเท่านั้น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *