รีวิว The Invitation

นับว่าน่าแปลกใจไม่น้อยที่ ‘The Invitation’ ได้ขึ้นอันดับ 1 บ็อกซ์ออฟฟิศของอเมริกา ทั้งที่หน้าหนังสยองขวัญแบบนี้ควรจะไปฉายในเดือนตุลาคมรับเทศกาลฮาโลวีนมากกว่า

แต่กระนั้นจุดที่น่าสนใจของมันก็มีไม่น้อยทั้งการมีไอเดียตั้งต้นจากวรรณกรรมสยองขวัญสุดคลาสสิกและเป็นบทนำในหนังเมนสตรีมนอกแฟรนไชส์ ‘Fast and Furious’ ของ นาตาลี เอ็มมานูเอล (Nathalie Emmanuel) สาวผิวเข้มผมหยิกที่ครองใจหนุ่ม ๆ ที่ติดตามแฟรนไชส์รถซิ่งมานาน รีวิวหนังระทึกขวัญ

ภาพยนตร์แนวโรแมนติก สยองขวัญ สัญชาติอเมริกัน ที่ได้ผู้กำกับมากความสามารถอย่าง เจสสิก้า เอ็ม. ทอมป์สัน มารังสรรค์ความลุ้นระทึกให้กับผู้ชมอย่างเต็มอิ่ม

ซึ่งตัวบทและเค้าโครงของเรื่องราวเกือบทั้งหมดได้รับแรงบันดาลใจมาจากนวนิยายสยองขวัญก้องโลกอย่างแดรกคิวล่า ที่มาผสมผสานความน่าสะพรึงกลัวกับความโรแมนติกที่อาจจะทำให้คนดูรู้สึกไม่ไว้วางใจต่อความรัก ความปรารถนาดีของคนใกล้ตัวได้อย่างสนิทใจอีกต่อไป

กล่าวแบบไม่อ้อมค้อมก็คือบทหนังของ แบลร์ บัตเลอร์ (Blair Butler) แสดงออกชัดเจนเลยว่าได้แรงบันดาลใจมาจาก ‘Dracula’ นิยายสยองขวัญระดับขึ้นหิ้งของ บราม สโตเกอร์ (Bram Stoker)

โดยหยิบจับเอามาเล่าโดยหลอกล่อผู้ชมด้วยพล็อตแบบหนังโรแมนติก ซินเดอร์เรลลา สาวชั้นต่ำจากนิวยอร์กมาพบรักกับเศรษฐีหนุ่มในคฤหาสน์หรูย่านชนบทของอังกฤษก่อนจะค่อย ๆ เปิดเผยธาตุแท้ของปีศาจในคราบคนรวยออกมา

ซึ่งเอาจริง ๆ แล้วบทของบัตเลอร์ก็มีไอเดียที่ดีไม่น้อยเลยนะคะ แต่แล้วมันก็ยังเหลือช่องโหว่ที่ทำให้คนดูอดสงสัยไม่ได้อยู่ดีตั้งแต่นางเอกตัดสินใจบินไปอังกฤษทั้งที่เพิ่งเจอกับคนที่อ้างตัวเป็นญาติครั้งแรกหรือ การได้พบเจอกับพ่อบ้านและเหล่าสาวใช้ท่าทางประหลาด

ไปจนถึงคุณหนูไฮโซที่เหมือนหลุดมาจากนางร้ายละครคุณธรรมบน Tik Tok แต่หนูอีวีก็ยังคงทู่ซี้อยู่ในคฤหาสน์ต่อไปเพียงเพราะเจ้าของเป็นหนุ่มหล่อมาเคาะประตูขอนอนด้วยแค่นั้นเอง

และยังไม่พอ ในเมื่อนี่คือหนังสยองขวัญที่มุ่งขายความน่ากลัวแต่งานกำกับของ เจสสิกา เอ็ม ธอมป์สัน (Jessica M. Thompson) กลับไม่ตอบโจทย์เท่าที่ควรเพราะนอกจากสกอร์ตุ้งแช่ที่ขยันมาสร้างความตกอกตกใจแล้ว ตัวหนังไม่สามารถสร้างความสะพรึงอะไรให้คนดูได้แม้แต่นิดเดียว ส่วนจุดหักมุมของหนังที่จะไปทางเพื่อนหญิงพลังหญิงก็ดูผิดที่ผิดทางไปเสียหมดจนเสียดายไอเดียสร้างสรรค์ตั้งต้นไม่น้อยเลยทีเดียว

เรื่องเปิดฉากย้อนเหตุการณ์กลับไปเมื่อหลายสิบปีก่อนที่คฤหาสน์แห่งหนึ่ง หญิงสาวที่มีชื่อว่า ‘เอ็มมาลีน อเล็กซานเดอร์’ (รับบทโดย Virag Barany) ขังตัวเองอยู่ในห้อง ในขณะที่พ่อบ้านพยายามขอร้องให้เธอทานอาหารบ้าง

จังหวะนั้นเองที่เอ็มมาลีนได้วิ่งออกมาจากห้อง และใช้เชือกมัดคอตัวเองไว้ ก่อนที่จะตะโกนออกไปว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้จะจบที่ตัวเธอ แล้วก็ตัดสินใจจบชีวิตตัวเองด้วยการแขวนคอ !

เอเวลีน แจ็กสัน (รับบทโดย นาธาลี เอ็มมานูเอล) หรือเพื่อน ๆ เรียกเธอว่า ‘อีวี่’ ทำงานอยู่ที่พิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่งกับ ‘เกรซ’ (รับบทโดย Courtney Taylor) เพื่อนรักของเธอ

แต่ปัญหาก็คืออีวี่รู้สึกโดดเดี่ยวตั้งแต่แม่เธอจากไปด้วยโรคมะเร็งเมื่อ 5 เดือนก่อน และพ่อก็เสียไปตั้งแต่เมื่อเธออายุได้เพียง 14 ปี เธอไม่รู้จักญาติพี่น้องคนไหนอีกเลยแม้แต่คนเดียว อีวี่จึงตัดสินใจทำการทดสอบ DNA เพื่อค้นหาญาติพี่น้องที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน

ไม่นานนัก อีวี่ก็ได้รับข้อความตอบกลับจากชายหนุ่มชาวอังกฤษชื่อว่า ‘โอลิเวอร์ อเล็กซานเดอร์’ (รับบทโดย ฮิวจ์ สกินเนอร์ – Hugh Skinner) ตอนแรกเธอก็ไม่ค่อยแน่ใจ จะเชื่อดีไม่เชื่อดี แต่ในที่สุดเธอก็ตอบตกลงที่จะนัดเจอกับโอลิเวอร์

อีวี่กับโอลิเวอร์นัดเจอกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง โอลิเวอร์ได้เล่าประวัติของครอบครัวให้อีวี่ฟัง คือ อีวี่มีสายเลือดของเอ็มมาลีน (หญิงสาวตอนต้นเรื่อง) เนื่องจากตอนนั้นเอ็มมาลีนแอบมีลูกนอกสมรสลับ ๆ อยู่

แล้วเขาก็เชิญอีวี่ไปร่วมงานแต่งงานของญาติที่จัดขึ้นที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และก็อีกเช่นเคย อีวี่ไม่ค่อยแน่ใจว่าจะไปดีไม่ไปดี แต่สุดท้ายก็ตอบตกลง

อีวี่เดินทางมาถึงกรุงลอนดอน ที่คฤหาสน์เดอวิลล์ (DeVille) ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานแต่งงาน ที่นั่นเธอได้พบกับ ‘มิสเตอร์ฟิลด์’ พ่อบ้านเฉื่อยชาของคฤหาสน์ และวอลเตอร์ เดอวิลล์ (รับบทโดย โธมัส โดเฮอร์ตี้)

หรือคนสนิทมักจะเรียกเขาว่า ‘วอลต์’ เจ้าของคฤหาสน์แห่งนี้ … ด้วยความที่เขามีหน้าตาอันหล่อเหลาและจิตใจดีมีเสน่ห์ ทำให้อีวี่ดูจะประทับใจเขาตั้งแต่แรกเห็น เขายังสัญญากับด้วยว่าจะทำให้เธอรู้สึกเหมือนอยู่บ้านตัวเอง

คุณสวิฟต์ หัวหน้าสาวใช้ทำหน้าที่พาอีวี่เดินดูรอบ ๆ บ้าน ซึ่งคุณสวิฟต์ยังเล่าเรื่องเสียงระฆังและการเชื่อมต่อกันของห้องแต่ละห้องให้อีวี่ฟังอีกด้วย ระหว่างนั้น อีวี่ได้คุยโทรศัพท์กับเกรซ เธอได้เล่าความน่าตื่นตาตื่นใจของคฤหาสน์ และเจ้าของที่นี่ยังเป็นชายหนุ่มสุดฮอตอีกด้วย

ต่อมา ขณะที่กำลังเดินผ่านห้องโถง อีวี่เห็นมิสเตอร์ฟิลด์กำลังสั่งงานเหล่าสาวใช้ โดยเขาเลือกสาวใช้คนหนึ่งให้ไปทำความสะอาดที่ห้องหนึ่ง ภายในห้องนั้นดูมีแววตาของสิ่งมีชีวิตบางอย่างปรากฏขึ้น !?

เช้ารุ่งขึ้น อีวี่ได้รับเชิญให้ไปร่วมปาร์ตี้สังสรรค์พบปะญาติ ลุงทวดของตระกูลกล่าวต้อนรับอีวี่อย่างเป็นกันเอง และวอลต์ก็แสดงท่าทีชัดเจนว่าเขากำลังจีบเธอ … ในขณะเดียวกัน สาวใช้สองคนที่กำลังทำงานในห้องเก็บไวน์ก็ถูกเจ้าสิ่งมีชีวิตลึกลับคว้าหมับเข้าให้

วอลต์ให้ชุดที่ใส่ไปงานเต้นรำคืนนี้กับอีวี่ … ในงานเต้นรำ อีวี่ได้พบกับ ‘วิกตอเรีย’ หญิงสาวที่สวยมากในสายตาของอีวี่ แม้จะดูหยิ่งไปหน่อยก็เถอะ และ ‘ลูซี่’ หญิงสาวผู้ใจดี … หลังจากนั้น อีวี่กับวอลต์ก็อยู่ด้วยกันที่ห้องนอน ทั้งสองนั่งมองดูดอกไม้ไฟบนท้องฟ้า ก่อนที่พวกเขาจะจูบกันเป็นเฟิร์สคิส

ดูเหมือนว่าอีวี่จะเริ่มตกหลุมรักวอลต์เข้าให้แล้ว

อีวี่ได้รับเชิญให้ไปงานพรีเวดดิ้งกับวิคตอเรีย ลูซี่ และแขกคนอื่น ๆ การได้คุยกับวิกตอเรียมันทำให้อีวี่รู้สึกอึดอัด เธอคิดในใจว่าลูซี่ดูจะเป็นเพื่อนที่ดีกว่าวิกตอเรีย ระหว่างงาน อีวี่เลือดออกที่นิ้ว แล้วจู่ ๆ วิกตอเรียก็ทำสิ่งที่ไม่คาดคิด โดยการเข้ามาดูดนิ้วของอีวี่ !

ต่อมา อีวี่ก็เดินดูนู่นี่นั่นภายในคฤหาสน์ไปแบบชิล ๆ และเกิดไปพบว่าวอลต์กำลังแอบสืบเรื่องราวของเธออยู่ มีเอกสารส่วนตัวของเธอจำนวนมาก หรือแม้แต่บัญชีโซเชียลต่าง ๆ ด้วยความโกรธอีวี่จึงตวาดใส่วอลต์และขู่ว่าเธอจะไปจากที่นี่ แต่วอลต์ก็พยายามชี้แจงว่า เขาทำไปโดยไม่มีเจตนาร้ายแอบแฝงเลย แล้ววอลต์ก็ใช้ลูกไม้เก่าเพื่อทำให้อีวี่สงลอารมณ์โกรธลง จูบ … จากนั้นทั้งสองก็มีความสัมพันธ์กันเป็นครั้งแรก … ไม่เท่านั้น วอลต์ยังพยายามคะยั้นคะยอขออีวี่แต่งงาน

ถึงแม้องค์แรกจะเต็มไปด้วยฉากโรเมนติก ยังดีที่ตัวหนังยังไม่ลืมที่จะใส่ความสยองขวัญลงไปตัวหนังก็สร้างบรรยากาศได้ดีชวนผวาอยู่เหมือนกันเลยขอบอกอีกอย่างว่าฉากตุ้งแซ่เยอะมากๆ ฮ่าๆ คนไม่ชอบฉากตุ้งแซ่เยอะอาจรู้สึกว่าจำเจพอสมควร

แล้วพอผู้เขียนได้เห็นบรรยากาศและคอสตูมที่ปังอลังการมากๆ ผู้เขียนว่ามันไม่ใช่ Ready or Not แล้วละ มันคือ UNDERWORLD ชัดๆคือมันได้มากแล้วผู้เขียนก็กำลังคิดถึงหนังแนวๆนี้อยู่พอดี พอมาเห็นแบบนี้อีกครั้งผู้เขียนก็แฮบปี้นะ เหมือนโซนี่อยากทำแฟรนไซส์นี้ต่ออะไรแบบนี้

อีกข้อที่น่่าเสียดายคือปมเฉลยก็ไม่ได้พืคมากเพราะตัวอย่างก็เผยบางส่วนของหนังเรียบร้อยแล้วและฉากฟาดกันท้ายๆก็สะใจและมันดีนะ แต่อยากให้มันสะใจมากยิ่งกว่านี้ อยากให้ฟาดตบแบบเอาเป็นเอาตายกันนานกว่านี้

สำหรับผู้เขียนรู้สึกว่าในช่วงเริ่มต้นของหนังอาจจะน่าเบื่อสักหน่อย เพราะหนังเดินเรื่องไปเรื่อยๆ อย่างไม่รีบร้อนมากนัก ซึ่งปาไปแล้วเกือบครึ่งค่อนเรื่อง หนังถึงจะพาคนดูไปสู่เรื่องราวที่เป็นใจความสำคัญของภาพยนตร์

ดังนั้นสำหรับคนที่อยากเห็นความสยองขวัญและภาพที่น่ากลัวมากๆ อาจจะรู้สึกผิดหวังก็เป็นได้ เพราะในฉากแรกๆ นั้นจะเป็นการนำเสนอช่วงที่อีวีตามหาญาติ และความโรแมนติกที่อีวีกับวอลเทอร์มีให้กันจนคนดูต้องเอาเล็บจิกหมอนขาดวิ่นกันเลยทีเดียว

โดยสิ่งที่โดดเด่นมากๆ จนผู้เขียนต้องขอชมคือบรรยากาศที่นำเสนอหรือภาพต่างๆ ในเรื่องสวยมาก ราวกับว่าอยู่ในโลกของความฝันที่สาวๆ หลายคนต้องการ ยิ่งในส่วนของเสื้อผ้าหน้าผม การแต่งกายอื่นๆ ที่ยิ่งทำให้หนังมีความอลังการ

เพิ่มความหรูหราต่อตัวละครต่างๆ อย่างไร้ที่ติ โดยเฉพาะอิวีที่รับบทโดย นาตาลี เอ็มมานูเอล สาวผิวเข้มที่ได้มาเฉิดฉายความสวยงามอย่างสมบูรณ์แบบสู่สายตาของคนดูอย่างมีเสน่ห์น่าดึงดูดสุดๆ

โดยภาพรวมแล้ว ‘The Invitation’ ถือเป็นหนังที่มีไอเดียตั้งตนที่ดีนะคะแต่บทหนังและการเล่าเรื่องกลับพามันไปไม่สุดทางสักเท่าไหร่ ถึงฉากน่ากลัว..หนังพี่แกก็มืดจนแทบมองอะไรไม่เห็นในฉากตุ้งแช่

หรือจะฉากเล่นหูเล่นตาชวนโรแมนติกก็ดูเชยสะบัดและแทบไม่ได้ทำให้คนดูรู้สึกอิ่มเอมอะไรเลย แต่ขอข้อยกเว้นไว้สำหรับสาว ๆ แล้วกันนะคะว่าถ้าอยากดูผู้ชายหล่อ ๆ การได้มอง โทมัส โดเฮอร์ตี (Thomas Doherty) อาจทำให้คุณใจละลายได้เลยล่ะค่ะ

อย่างไรก็ตามแม้ว่า วิวาห์ผวา (2022) จะได้นักแสดงสุดสวย และแรงบันดาลใจของบทภาพยนตร์ที่มีความสยองขวัญแบบคลาสสิก แต่ก็น่าเสียดายเพราะเรื่องที่นำเสนอมานั้นมีความเก่าเก็บ ไม่แปลกใหม่ และไม่น่าสนใจเท่าที่ควร

ซึ่งผู้เขียนขอกระซิบบอกเลยว่า ในหนังมีฉากตุ้งแช่เยอะพอสมควร ดังนั้นใครที่ไม่ชอบหรือเกลียดฉากประเภทนี้ก็ควรหลีกเลี่ยงเอาไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ คงจะดีที่สุด อย่างไรก็อย่าเพิ่งตัดสินหนังอย่างวู่วามไปเสียทีเดียว

เพราะบางทีหนังสไตล์นี้อาจจะขึ้นหิ้งเป็นหนังโปรดในใจของใครหลายๆ คนก็เป็นได้
เป็นหนังที่ดูสนุกเพลินๆ บทไม่ได้ใหม่และหวือหวามาก ทำบรรยากาศชวนหลอน กับ ความโรแมนติกของพระนางชวนฟืนจิกหมอนได้ดี รวมๆก็ถือว่าเป็นอีกโปรแกรมหนังที่ดูง่ายไปไม่ต้องคิดเยอะ น่าชวนเพื่อนชวนตี้มาดูเรื่องนี้ให้กริ๊ดฟืนจิกเบาะเล่นๆ