รีวิว Black Mirror Season 1 เป็นหนึ่งใน Netflix Series ที่มีความน่าสนใจสูงมาก ด้วยความสดใหม่จากการเห็นความมืดของเทคโนโลยี คุณภาพของซีรีย์มีการไต่ระดับสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนอยากดูตอนต่อไปทันทีหลังดูจบตอนหนึ่ง แม้จะมีเนื้อหาที่ค่อนข้างน้อย แต่ก็ทำออกมาคุณภาพน่าพึงพอใจ ดูหนังออนไลน์ฟรี
รีวิว Black Mirror Season 1 จุดเริ่มต้นความดำมืดของเทคโนโลยี
เริ่มต้นด้วยตอนแรกของซ๊รีย์ชุดนี้ การว่าด้วยสถานการณ์ที่ดูสมจริงที่สุดภายในเรื่องก็ว่าได้ใน Season 1 นี้ กับการว่าด้วยการใช้สื่อออนไลน์ในการบอกกล่าวเกี่ยวกับการจับตัวประกัน ให้นายกรัฐมนตรีต้องทำตามคำขอร้องจากผู้จับกุมไป เหยื่อไม่ใช่ใครอื่น
แต่เป็นเชื้อพระวงศ์คนหนึ่ง นี่เป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญในการหาหนทางช่วยเหลือเจ้าหญิงจากเหตุการณ์ครั้งนี้
การเล่าเรื่องภายในตอนนี้ทำออกมาได้น่าสนใจและเสียดสีเรื่องราวความเป็นจริงของสังคม ด้วยพลังของสื่อต่าง ๆ
ที่มีการถ่ายทอดเรื่องราวของข่าวออกมารวดเร็วราวกับเชื้อไวรัส มันมีการขยายข้อมูลไปยังผู้คนไม่ใช่แค่เพียงในประเทศ แต่มีการเผยแพร่ไปยังทั่วทั้งโลก จากที่เราคิดว่าจะควบคุมมันได้
แต่กลับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง เมื่อโซเชียลมีเดียกลายเป็นสนามข่าวอันทรงพลัง การแสดงความเห็นให้เราได้เห็นมุมมองของผู้คนมากมาย ข้อมูลความรู้สึกมหาศาลได้กลายเป็นแรงกดดันให้คนเราต้องรับความรู้สึกเอาไว้
หากมันมากพอมันสามารถกำหนดชีวิตของคนได้เลยทีเดียว นี่เป็นการเสียดสีเรื่องราว Cyber Bullying ไปโดยไม่รู้ตัว นี่จึงเป็นการชำแหละโลกเทคโนโลยีที่มีความใกล้เคียงปัจจุบันมากที่สุดสิ่งหนึ่ง ดูหนังฟรี
แม้ซ๊รีย์ตอนนี้จะมีเนื้อหาที่ค่อนข้างสั้นมาก ทำให้มันดูเป็นเหตุการณ์ประจวบเหมาะในหลายฉาก ในบางฉากตัดออกไปก็ไม่มีผลต่อเรื่องราว รวมถึงความสมจริงที่ได้เล่าออกมายังไม่ให้เรารู้สึกอินเรื่องราวได้อย่างเต็มที่ จนทำให้ imapact ของซีรีย์ที่ควรจะเป็น
มันกลับดูดร็อปลงและไม่สร้างความจดจำแก่ผู้ชมนัก แม้จะมีเรื่องราวที่น่าสนใจและดี แต่อารมณ์การเล่าเรื่องนั้นเหมือนโฆษณาชวนเชื่อ จนคุณค่าได้หายไปจนจืดจาง
คาดว่าหลายคนคงรู้สึกเสียดายไม่แพ้กัน หากได้การดำเนินเรื่องราวที่ดีกว่านี้มาช่วย คงทำให้เรื่องราวออกมาน่าสนใจกว่านี้
รีวิว Black Mirror เนื้อหาของเรื่องโดยรวม
เนื้อหาของเรื่องจะสะท้อนด้านมืดของเทคโนโลยี รวมถึงสำรวจจิตใจของมนุษย์และสังคม ซีรีส์นี้จะเล่าเรื่องสมมุติว่าถ้าเทคโนโลยีได้พัฒนาไปถึงจุดหนึ่งแล้ว จะส่งผลกระทบอะไรต่อมนุษย์บ้าง
หากมนุษย์คิดค้นนวัตกรรมอะไรออกมาใหม่เพื่อช่วยอำนวยประโยชน์แก่มนุษยชาติ จะเป็นไปได้ไหมว่าอาจจะมีโทษที่เราคาดไม่ถึง เนื้อหาส่วนใหญ่จะเล่าถึงโลกอนาคต แต่บางครั้งก็เป็นเรื่องเสมือนปัจจุบัน แต่ละเรื่องนั้นค่อนข้างสนุกและทำให้เราทึ่งกับไอเดียพอสมควร
มีหลายประเด็นที่สามารถเก็บมาขบคิดหลังจากดูจบ หรือถกกับเพื่อนคนอื่นๆ ที่ชมด้วยได้อย่างสนุก หากใครชอบเรื่องราวแนวไซไฟ ซีรีส์เรื่องนี้จะเหมาะกับคุณมาก รวมรีวิวหนังระทึกขวัญ
นอกจากไซไฟที่เป็นโทนหลักของเรื่อง แต่ละตอนยังประกอบไปด้วยหลายๆ แนว ได้แก่ ดราม่า ลึกลับ ลุ้นระทึก ตลกร้าย หรือกระทั่งโรแมนติก ทั้งนี้ แต่ละตอนจะเป็นเรื่องราวหนึ่ง ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกัน นั่นหมายความว่าเราจะดูแบบไม่เรียงลำดับตามตอนก็ได้
นอกจากนั้น วิธีการนำเสนอค่อนข้างรวดเร็ว และเน้นการแสดงให้เห็นมากกว่าการบอกเล่าด้วยคำพูด กล่าวคืออาจแทบไม่มีการเกริ่นนำอะไรให้คนดูเข้าใจ เปิดเรื่องมาก็เล่าทันทีเลย ทำให้ผู้ชมอาจจะงงในช่วงต้นว่าตัวละครมันพูดถึงอะไรกัน แต่พอดูไปสักพักก็จะตามทันเอง
นอกจากนั้น วิธีการนำเสนอค่อนข้างรวดเร็ว และเน้นการแสดงให้เห็นมากกว่าการบอกเล่าด้วยคำพูด กล่าวคืออาจแทบไม่มีการเกริ่นนำอะไรให้คนดูเข้าใจ เปิดเรื่องมาก็เล่าทันทีเลย ทำให้ผู้ชมอาจจะงงในช่วงต้นว่าตัวละครมันพูดถึงอะไรกัน แต่พอดูไปสักพักก็จะตามทันเอง
เรื่องราวเกิดขึ้นในประเทศอังกฤษ เริ่มต้นด้วยนายกรัฐมนตรีได้รับแจ้งว่าเจ้าหญิงแห่งราชวงศ์อังกฤษถูกลักพาตัว ผู้ร้ายได้ส่งภาพวิดีโอเจ้าหญิงถูกมัดมาให้
เงื่อนไขการปล่อยตัวมีเพียงนายกฯ เท่านั้นที่จะทำได้ กล่าวคือ ให้นายกฯ “กระทำการบางอย่าง” แล้วถ่ายทอดสดออกอากาศทั่วโลก หากถึงเวลาแล้วไม่ทำจะฆ่าเจ้าหญิงทันที เมื่อนายกฯ ได้ยินหน้าซีดทันที เนื่องจากมันเป็นเงื่อนไขที่วิปริต น่ากระอักกระอ่วน และเสื่อมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ในแง่หนึ่ง
ทางรัฐบาลจึงพยายามหาทางแก้ไข ทั้งโดยการหาคนร้าย และหาทางออกทางอื่นเพื่อไม่ให้ประชาคมโลกเห็นภาพนายกรัฐมนตรีของประเทศต้องทำเรื่องน่าอับอาย
รีวิว Black Mirror เนื้อหาแต่ละ Ep.
Episode 1: The National Anthem
เรื่องราวของนายกรัฐมนตรีอังกฤษที่ได้รับแจ้งว่าเจ้าหญิงแห่งราชวงศ์ถูกลักพาตัวไป ผู้ร้ายได้ส่งภาพวิดีโอเจ้าหญิงที่ถูกมัดมือมัดเท้ามาให้ดู และขู่ว่าถ้าอยากให้ปล่อยตัวเจ้าหญิงต้องทำอะไรบางอย่างแลก โดยการกระทำนั้นต้องถ่ายทอดสดให้คนทั้งโลกได้เห็น
เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าไม่ได้ตัดต่อ และหากไม่ทำตามจะฆ่าเจ้าหญิงเสีย และเพราะเรื่องที่ผู้ร้ายให้ทำเป็นเรื่องวิปริตผิดมนุษย์มนา และเป็นการทำให้เสียเกียรติพระราชวงศ์ ทางรัฐบาลพยายามช่วยกันคิดหาวิธีการที่ทำให้นายกรัฐมนตรีไม่ต้องกระทำเรื่องบัดสีนี้ แต่ว่าเรื่องบัดสีนั้นคืออะไรนะ รีวิวหนังผีไทย
Episode 2: Fifteen Million Merits
เรื่องราวเกี่ยวกับโลกดิสโทเปีย มนุษย์อยู่ได้ด้วยค่าความดี (เปรียบเหมือนสกุลเงิน) พวกเขาจะต้องปั่นจักรยานเพื่อให้ได้มาซึ่งเงินที่ใช้ในการดำรงชีวิต ระบบหน่วยเงินเรียกว่า “Merit” ลักษณะคือ ไม่ได้มีเป็นเหรียญหรือธนบัตร
แต่จะเป็นระบบหน้าจอล่องหน ทุกครั้งที่จะใช้จ่ายอะไร จะมีภาพหน้าจอเป็นตัวเลขบอกจำนวนเงินที่ได้รับหรือจ่ายไป บิง ชายหนุ่มผิวสี ผู้เบื่อหน่ายกับชีวิต วันหนึ่งชีวิตของเขากลับต้องเปลี่ยนไปเมื่อได้เจอกับ อาบี หญิงสาวคนหนึ่ง
เขาซื้อตั๋วเพื่อให้อาบีเข้าร่วมรายการโชว์เพื่อเป็นนักร้องและก้าวไปสู่สังคมคนดัง แต่ทว่าผลลัพธ์อาจไม่เป็นเช่นนั้น ชีวิตของเธอและเขากำลังเปลี่ยนไป
Episode 3: The Entire History of You
จะเป็นอย่างไร หากเราสามารถรับรู้เรื่องราวทั้งหมด ที่แม้จะเป็นเรื่องราวในอดีตของใครบางคนได้ เรื่องราวของการฝังชิปคอมพิวเตอร์ที่หลังใบหูและเชื่อมต่อกับจอตา ชิปตัวนี้เรียกว่า “grain” เราใช้ชิปตัวนี้ในการย้อนกลับไปดูวิดีโอหรือภาพความทรงจำในอดีตของเราในช่วงไหนก็ได้
หรือเลือกจะลบทิ้งก็ได้ Liam แอบมีความสงสัยในความสัมพันธ์ระหว่างตัวภรรยา Fi กับแฟนเก่าของเธอ Jonas จึงพยายามอ่านเรื่องราวจากชิป ทำให้เกิดปัญหาบ้านแตกอย่างรุนแรง
รีวิว Black Mirror ความเห็นหลังชม
เนื้อหาเรื่องนี้อาจจะไม่ค่อยเป็นแนวไซไฟล้ำยุคมากนัก แต่ก็น่ากลัวตรงที่มันดูเหมือนสามารถเกิดขึ้นจริงได้ในปัจจุบัน ผู้เขียนแสดงให้เห็นถึงอำนาจของอินเทอร์เน็ตที่แม้กระทั่งรัฐบาลหรือองค์กรใดๆ ยังอาจสู้ไม่ได้ เห็นได้ชัดเมื่อนายกฯ ต้องการปิดข่าว ก็ทำไม่ได้เพราะผู้ร้ายได้อัพโหลดคลิปวิดีโอดังกล่าวลงในเว็บ YouTube เสียแล้ว
แม้กระทั่งเมื่อทางรัฐสั่งให้เว็บ YouTube ลบคลิปเจ้าหญิงออก แต่ว่าคลิปดังกล่าวก็ยังเผยแพร่ไปในทางอื่นได้อยู่ดี นี่แปลว่าอะไร แปลว่าผู้ที่มีอำนาจสูงสุดของประเทศก็ยังไม่สามารถควบคุมอำนาจของเทคโนโลยีได้เลย
ทุกวันนี้เทคโนโลยีก้าวหน้าไปรวดเร็วมากจนกระทั่งกฎหมายเองยังตามไม่ทัน แม้รัฐบาลจะออกคำสั่งเอาผิดต่อผู้ที่ครอบครองหรือเผยแพร่คลิปของนายกฯ แต่ว่าเอาเข้าจริงในทางปฏิบัติ กฎหมายจะเอาผิดคนเหล่านั้นได้อย่างไร หากคลิปดังกล่าวเผยแพร่และส่งต่อไปให้คนหลายล้านคนแล้ว หนังระทึกขวัญแนะนำ
นอกจากนี้ยังแทรกประเด็นว่าสื่อในสมัยนี้เริ่มอ่อนกำลังลง เมื่อประชาชนแต่ละคนสามารถเผยแพร่ข้อมูลได้เอง (แม้กระทั่งคนร้าย) แต่ละคนสามารถแสดงความเห็นของตนเองโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งสื่ออีกต่อไป ทั้งยังมีพลังกดดันรัฐบาลได้ด้วย
จึงทำให้ทุกวันนี้ เราอยู่ในยุคที่ต้องเสพข้อมูลจำนวนมาก เพราะไม่ได้มีเพียงสื่อทางทีวี หรือวิทยุ หรือหนังสือพิมพ์เท่านั้น เราสามารถอ่านข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตซึ่งมาจากประชาชนทั่วไป ความเห็นในเว็บต่างๆ กระทู้คำถาม หรือฟีดในเฟสบุ๊ก
อาจกล่าวได้ว่าด้วยข้อมูลจำนวนมหาศาลทำให้คนเราส่วนใหญ่เสพติดหน้าจอ ไม่ว่าจะหน้าจอทีวี มือถือ หรือคอมพิวเตอร์ก็ตาม เราจำเป็นต้องตามข่าวให้ทัน เราจำเป็นต้องรู้เรื่องดราม่าในกระทู้ต่างๆ ไม่เช่นนั้นเราจะคุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่อง
เพราะฉะนั้น ฉากที่น่าสะเทือนใจมากฉากหนึ่งในตอนนี้ คือฉากที่ประชาชนทุกคนรออยู่หน้าจอทีวีเพื่อดูการถ่ายทอดสด จนไม่ทันรับรู้ว่าในขณะเดียวกันนั้นเอง ร่างของเจ้าหญิงถูกทิ้งอยู่กลางเมืองใหญ่โดยไม่มีผู้ใดสังเกตเห็น
เราว่าตอนนี้มีหลายประเด็นในขบคิดเยอะ เสียดสีทั้งการเมือง สื่อ และประชาชน แม้กระทั่งบทสรุปไปจนถึงฉากจบก็เปิดกว้าง ทำให้คนดูสามารถตีความและคิดต่อได้อีกมากมาย
รีวิว Black Mirror องค์ประกอบของเรื่อง
Black Mirror เราจะพบว่าส่วนประกอบที่สำคัญของทั้ง 3 Ep. ที่ว่านี้คือ เทคโนโลยี ความรัก และเซ็กซ์ ทั้ง3 องค์ประกอบข้างต้นล้วนแต่เป็นตัวที่คอยขับเคลื่อนเนื้อเรื่องและเป็นประเด็นสำคัญที่แต่ละเรื่องต้องการจะสื่อสารกับคนดูซีรีส์ได้ใช้เทคโนโลยีและเซ็กซ์
มาเป็นเงื่อนไขที่ทำให้เกิดความขัดแย้งต่างๆ ในเรื่อง ใน Ep.1 คือการใช้สื่อ โซเชียลเนตเวิร์ค มาเป็นตัวกดดันตัวละคร ทั้งการเผยแพร่คลิปตัวประกันลงอินเตอร์เน็ต
และการเผยแพร่คลิปนายกฯมีอะไรกับหมูทั่วประเทศ ส่วนใน Ep.2 คือการสร้างโลกสมมติที่ไม่มีอยู่จริง ทั้งการซื้อผลไม้ผ่านตู้อัตโนมัติ การปั่นจักรยานเพื่อเก็บเงิน และสิ่งบันเทิงล่อใจต่างๆ Ep.3 คือการย้อนความทรงจำเพื่อหาความจริงถึงการคบชู้ของแฟนสาว และย้อนดูตอนที่เธอมีอะไรกับชู้
ส่วนที่สองคือความรัก เป็นส่วนที่ทำให้เรื่องราวดูมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น เป็นปัจจัยที่ทำให้เรารู้สึกว่าตัวละครทุกตัวดูมีเลือดเนื้อ มีชีวิตจิตใจมากยิ่งขึ้น โดยใน Ep.1 จะเป็นความรักของนายกฯและภรรยาท่ามกลางความรับผิดชอบของประเทศชาติ
ใน Ep.2 เป็นความรักแรกพบของตัวละครก่อนที่จะค่อยๆ พัฒนาความสัมพันธ์ และการพร้อมทำทุกอย่างของบิง เพื่อคนที่เขารัก
ใน Ep.3 เป็นการพูดถึงความรักที่ต้องเผชิญกับเรื่องของมือที่ 3 จนไปสู่การไม่ไว้ใจกันของคู่รัก หนังแนะนำNetflix
รีวิว Black Mirror บทสรุปโดยรวม
แม้ซ๊รีย์ตอนนี้จะมีเนื้อหาที่ค่อนข้างสั้นมาก ทำให้มันดูเป็นเหตุการณ์ประจวบเหมาะในหลายฉาก ในบางฉากตัดออกไปก็ไม่มีผลต่อเรื่องราว รวมถึงความสมจริงที่ได้เล่าออกมายังไม่ให้เรารู้สึกอินเรื่องราวได้อย่างเต็มที่
จนทำให้ imapact ของซีรีย์ที่ควรจะเป็น มันกลับดูดร็อปลงและไม่สร้างความจดจำแก่ผู้ชมนัก แม้จะมีเรื่องราวที่น่าสนใจและดี แต่อารมณ์การเล่าเรื่องนั้นเหมือนโฆษณาชวนเชื่อ
จนคุณค่าได้หายไปจนจืดจาง คาดว่าหลายคนคงรู้สึกเสียดายไม่แพ้กัน หากได้การดำเนินเรื่องราวที่ดีกว่านี้มาช่วย คงทำให้เรื่องราวออกมาน่าสนใจกว่านี้
ในซีซั่นแรกที่แม้จะมีเพียง 3 Ep. ที่ไม่ได้มีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกัน แต่ทุกตอนก็ถือว่าสามารถแสดงถึงคอนเซ็ปต์ของซีรีส์ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม
สามารถทำให้คนดูรับรู้ถึงเรื่องราวที่ผู้ทำต้องการจะสื่อได้เป็นอย่างดี จนทำให้เราสนใจในซีซั่นต่อๆ ไป ที่จะมี Topic ที่ต่างกันไป โดยในซีซั่นแรกจะเน้นพูดถึงเรื่องเซ็กซ์เป็นหลัก
ที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นคือเหล่านักแสดงที่มาร่วมแสดงในแต่ละตอนนั้นล้วนแต่เป็นนักแสดงมากฝีมือ ที่เคยโด่งดังจากหนังและซีรีส์เรื่องต่างๆ ทั้ง แดเนียล คารูย่า ที่เล่นซีรีส์เรื่องนี้ก่อนจะไปโด่งดังใน Get Out , เจสสิก้า บราวน์ ฟินด์เลย์ จาก Downton Abbey
ความสนุกของซีรีส์เรื่องนี้ไม่ใช่การที่เราจะต้องติดตามเรื่องราวในทุกๆ ตอน แต่เป็นการที่เราจะได้เห็นโลกอนาคต และมุมมองเทคโนโลยีของผู้กำกับแต่ละคนที่เลือกมานำเสนอ เราจะได้เห็นทั้งด้านดีและด้านเลวร้ายของคำว่าเทคโนโลยี
Black Mirror Season 1 เป็นหนึ่งใน Netflix Series ที่มีความน่าสนใจสูงมาก ด้วยความสดใหม่จากการเห็นความมืดของเทคโนโลยี คุณภาพของซีรีย์มีการไต่ระดับสูงขึ้นเรื่อย ๆ
จนอยากดูตอนต่อไปทันทีหลังดูจบตอนหนึ่ง แม้จะมีเนื้อหาที่ค่อนข้างน้อย แต่ก็ทำออกมาคุณภาพน่าพึงพอใจ