รีวิวหนัง The Devil All The Time
The Devil All The Time หรือ ศรัทธาคนบาป ภาพยนตร์แนวอาชญากรรมระทึกขวัญ กำกับและร่วมเขียนบทโดย อันโตนีโอ แคมปอส โดยมี เจค กิลเลนฮาน เป็นโปรดิวเซอร์ ดัดแปลงจากนวนิยายระทึกขวัญชื่อเดียวกันในปี 2011 ของ โดนัลด์ เรย์ พอลลอค จัดจำหน่ายโดย เน็ตฟลิกซ์ นำแสดงโดย ทอม ฮอลแลนด์, บิลล์ สการ์สการ์ด, เฮลี่ย์ เบนเนต, โรเบิร์ต แพตทินสัน, เซบาสเตียน สแตน, ไรลีย์ คีโอห์, เจสัน คล๊าร์ค, มีอา วาชิคอฟสก้า และ เอลิซา สแกนเลน ดูหนังระทึกขวัญ อาชญากรรม
รีวิวหนัง The Devil All The Time 2020
The Devil All The Time เป็นหนังที่มีความสนุกมากหนังเรื่องนี้ได้เขียนมาจากนิยายที่ได้รับรางวัลมากมาย ผมเพิ่งมารู้จักก็ตอนที่เรื่องนี้ประกาศสร้างตั้งแต่ปี 2018 นี่แหละ นี่ก็ 2020 แล้ว ถือเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานพอสมควร 2 ปีแห่งการสร้าง มีการคุยกับนักแสดงมากมายที่จะมาเล่นภาพยนตร์ เสียดายที่คริส อีแวนส์ที่เคยคุยตั้งแต่เริ่มโปรเจกต์ไม่ได้เล่น แต่การได้นักแสดงนำดี ๆ มากมายมารวมตัวกันในภาพยนตร์เรื่องเดียวขนาดนี้ ถือเป็นกำไรใหญ่ที่สตรีมมิ่งเน็ตฟลิกซ์มอบให้ในช่วงเวลาที่ทุกคนต้องกักตัวแบบนี้ การได้ชมหนังเข้ม ๆ รสชาติข้นราวกับกาแฟยามบ่ายถือเป็นอะไรที่ได้อารมณ์อยู่พอสมควรกับคนดู เพราะนอกจากจะมีนักแสดงแล้ว ยังมี เจค กิลเลนฮาน ดาราหนุ่มมากฝีมือที่มารับบทเป็นผู้อำนวยการสร้างให้กับหนังเรื่องนี้ ก็ทำให้พอจะเห็นแล้วว่าดรีมทีมของภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ธรรมดาเลย แต่จะให้ผมไล่พูดดาราแต่ละคน ผมคงไม่พูดอะไรมาก อยากให้ไปชมกันว่าแต่ละคนนั้นแสดงออกมาได้สมบทบาทแค่ไหน ดูหนังฟรี
“ทั้งหมดคือคนบาปที่มีความศรัทธาในเมืองน็อกเคมสติฟฟ์ อาร์วิน ของหนุ่มน้อยที่เต็มไปด้วยความมีคุณธรรม เขาได้เสียพ่อและแม่ไปจากศรัทธาของพระเจ้า จึงทำทุกวิถีทางที่จะปกป้องครอบครัวที่เหลืออยู่ ไม่ว่าจะเป็นย่าและน้องสาว ลุงของเขา จากความชั่วร้ายที่เข้าครอบงำ ไม่ว่าจะเป็นตำรวจผู้ไม่โปร่งใส สองสามีภรรยาโรคจิตที่ใช้เวลาว่างไปกับการฆาตกรรมและถ่ายภาพ นักเทศน์หนุ่มผู้ไม่น่าเลื่อมใส ในขณะเดียวกันเวลาก็ได้นำพาทุกคนมาพบกัน และให้ผลของการกระทำที่เคยก่อจะสนองกลับสู่พวกเขาอย่างเจ็บแสบและทารุณ ดูหนังออนไลน์
หลายเส้นเรื่อง หลายช่วงเวลา ที่มาบรรจบกัน
เปิดเรื่องมา ผมเกือบตามเรื่องไม่ทันเลย เพราะหนังใช้วิธีการเล่าผ่านบุคคลที่สาม เหมือนอ่านหนังสือยังไงยังงั้น แต่ว่าหนังก็พาเข้าเรื่องอย่างรวดเร็วโดยการเล่าตัวละครสลับมุมมองไปมาในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ให้เห็นว่าเหตุการณ์นั้นมีจุดตัดและจุดเปลี่ยนยังไง โดยเฉพาะเรื่องของพระเจ้าและศรัทธา ซึ่งทำให้ผมเริ่มสนใจแล้วว่าหนังจะเล่าเรื่องอะไร พอสักพักหนึ่ง ทำไมตัดไปช่วงนั้น ตัดไปช่วงนี้อีกแล้ว มันมีหลายเส้นเวลา หลายเหตุการณ์มากจนบางทีก็รู้สึกไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่
ในที่สุดเรื่องก็เข้าจริง ๆ หลังจากใช้เวลาปูเรื่องในช่วง 45 นาทีแรก ตัวละครแต่ละตัวก็มีปมมีอะไรต่างกันไป แต่แล้วก็มีตัวละครใหม่เข้ามาเป็นตัวจุดไฟเรื่องเข้าไปอีก แต่มันกลับยิ่งเนือย เพราะกว่าเราจะเห็นเรื่องมันเข้มข้นก็ช่วง 30 นาทีสุดท้าย ซึ่งผมก็ยอมรับว่ามันก็ค่อนข้างที่จะสะเปะสะปะหลายประเด็น จนพูดออกมาไม่ได้ เพราะเกรงว่าจะสปอย แต่หนังก็จบลงได้อย่างสมบูรณ์ โดยทิ้งคำถามไว้ว่า ชีวิตของตัวละครจะลงเอยอย่างไรต่อไป ความหวังที่พวกเขามีมันยังอยู่หรือถูกถอดทิ้งโดยพระเจ้ากัน
วิลลาร์ด รัสเซล ทหารหนุ่มผู้ได้พบกับนายพลโจนส์ที่ถูกทรมานตอนทำสงครามที่เกาะโซโลมอน ก่อนจะเป็นคนปลิดชีพ เมื่อกลับมาเขาก็ได้พบรักกับสาวสวยชื่อ ชาร์ล็อต และได้แต่งงานเริ่มต้นชีวิตใหม่มีลูกชายชื่อ อาร์วิน ที่ถูกรังแกบ่อย ๆ ทำให้วิลลาร์ตผู้ศรัทธาในพระเจ้าจนสร้างไม้กางเขนในป่าไว้สวดเคารพพระเจ้า
ทว่าชาร์ลอตก็ล้มป่วยหนัก วิลลาร์ตเริ่มหลอนและคลั่งสังหารสุนัขของอาร์วินตรึงไว้กับไม้กางเขนเหมือนกับนายพลโจนส์ เพื่อสวดให้ภรรยาคืนชีพกลับมา แต่ก็ไม่ได้ผล ชาร์ลอตเสียชีวิตอย่างสงบ อาร์วินเสียใจและเกลียดพ่อ แต่ไม่นานวิลลาร์ตก็ฆ่าตัวตายเพราะหมดศรัทธาในพระเจ้าตรงไม้กางเขน โดยที่มีนายตำรวจ ลี มาเป็นคนรับเรื่อง
แม้ว่าแม่ผู้เคร่งศาสนาของเขาจะอยากให้เขาแต่งงานกับเฮเลน เด็กสาวกำพร้าที่ดันไปพบรักกับ รอย หนุ่มคลั่งศาสนาจนมีลูกชื่อเลอนอร่า แต่แล้วเธอก็ถูกฆาตกรรมและฝังศพไว้โดยรอย ก่อนเขาจะหลบหนีออกมา
รอยถูกฆาตกรรมโดยสองสามีภรรยาฆาตกรอย่างคาร์ลและแซนดี้ ที่พบรักกันในร้านอาหารเดียวกับที่วิลลาร์ตกับชาร์ลอตพบกัน ก่อนจะหาโอกาสหลอกล่อผู้ชายมาฆ่าทิ้งและถ่ายรูปวิปริตไว้ โดยมีพี่ชายของแซนดี้ นายตำรวจ ลี คอยปิดบังไว้ให้ อาร์วินได้กลับมาอยู่กับย่า และเติบโตร่วมกับเลอเนอร่า น้องสาวของเขาตั้งแต่นั้น
ปี 1965 ที่เมืองนอกเคมสติฟฟ์ ทั้งคู่เติบโตเป็นหนุ่มสาว อาร์วินคอยปกป้องเลอนอร่าจากการถูกรังแกเพราะเคร่งศาสนา แต่ทว่าการมาของนักเทศน์ผู้เปี่ยมเสน่ห์อย่าง เพรสตันที่ได้ใช้ศาสนาหลอกล่อให้เลอนอร่ามีอะไรด้วยจนตั้งครรภ์ ก่อนที่จะสลัดเธอทิ้งอย่างไม่ไยดี
เลอนอร่าตัดสินใจฆ่าตัวตาย แม้จะเปลี่ยนใจได้ในนาทีสุดท้ายแต่ก็สายไปแล้ว อาร์วินเสียใจมาก และค่อย ๆ ตามสืบเรื่องของเพรสตัน จนรู้ว่าเขาลักลอบมีความสัมพันธ์กับเด็กหญิงไปทั่ว ด้วยความโกรธเขาจึงใช้ปืนที่พ่อเขาเคยมอบให้ บุกไปฆ่าเพรสตัน และหลบหนีออกจากเมืองไป
อาร์วินพบกับสองสามีภรรยาคาร์ลและแซนดี้ที่จะให้เขาเป็นเหยื่อรายต่อไป แต่ก็ถูกอาร์วินสังหารทั้งคู่ เมื่อลีตามมาสืบก็รู้ว่าเป็น เด็กที่เขาเคยช่วยไว้ แต่เพราะหน้าที่และความกลัวว่าเรื่องเลวร้ายของน้องสาวจะเปิดเผย จึงตามไล่ล่าอาร์วินที่บ้านเก่าของพ่อแม่ แต่ก็ถูกสังหารโดยเขา
อาร์วินตัดสินใจจะหลบหนีไปเริ่มต้นชีวิตใหม่อย่างมีความหวัง แม้เขาจะฆ่าคน แต่คนเหล่านั้นก็คือคนบาป และทุกคนก็ได้รู้ว่าเขาทำทำไม เขาไม่จำเป็นต้องมีศรัทธาในพระเจ้า อย่างน้อยเขาก็ไม่ต้องทนอยู่กับเมืองนั้นอีกต่อไป ก่อนจะผลอยหลับไปในรถที่เขาขอติดมาอย่างเหนื่อยล้า
คนบาปใหญ่ในเมืองเล็ก
แม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะดำเนินเรื่องขึ้นมาว่าทอม ฮอลแลนด์ผู้รับบทอาร์วินจะเป็นตัวเอกเดินเรื่อง แต่แท้ที่จริงแล้วทุกคนในเรื่องนี้ล้วนมีเส้นเรื่องเป็นของตัวเอง การที่หนังเล่าตัดสลับผ่านบุคคลที่ 3 ก็เพื่อที่หนังจะสามารถให้ความสำคัญกับตัวละครและปมได้หมดทุกคน ย้ำว่าทุกคน ไม่มีใครหายไปจากหนังดื้อ ๆ ทุกคนมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนเรื่องราวอยู่ตลอด ไม่ว่าจะอยู่ในฉาก หรือไม่อยู่ก็ตาม บิล สการ์สการ์ด ก็รับบทเป็น วิลลาร์ต นายทหารหนุ่มผู้นำพาศรัทธาอันบิดเบี้ยวกลับมาที่เมือง โรเบิร์ต แพททินสัน ที่มารับบท เพรสตัน นักเทศน์ผู้ที่ใช้ผลประโยชน์ทางศาสนาหลอกล่อเด็กสาวผู้เคร่งศาสนา
เจสัน คล๊าร์ค และ ไรลีย์ คีโอห์ รับบทเป็น คาร์ลและแซนดี้ คู่รักที่ใช้ฆาตกรรมเพื่อความบันเทิงและความสนุก เอลิซา สแกนเลน ในบท เลอนอร่า หญิงสาวเคร่งศาสนาที่ถูกความศรัทธาชักจูงเข้าสู่บ่วงแห่งพระพรที่ยากเกินแก้ โดยที่ทุกคนไม่รู้เลยว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเพราะอะไร เป็นเพราะประสงค์ของพระเจ้าตามที่ตัวละครเชื่อ เป็นเพราะการกระทำของพวกเขา หรือเพราะคนเขียนบทอยากให้เป็นเช่นนั้น
รีวิวหนัง The Devil All The Time นักแสดงคับคั่ง คุณภาพคับจอ
The Devil All The Time ได้สร้างเสริมขึ้นมาทำให้หนังมีปริศนาให้เราติดตามถึงมูลเหตุจูงใจในการกระทำนั้น ๆ โดยที่ไม่มีคำตอบให้ แต่ยังไงซะการแสดงที่เด่นที่สุดของเรื่อง ก็คือ ทอม ฮอลแลนด์ ที่พยายามสลัดบทหนุ่มน้อยแสนดี ซึ่งแม้จะยังสลัดออกไม่หมด แต่ก็ยังรักษามาตรฐานการแสดงที่เข้มข้น ตัดกับ โรเบิร์ต แพททินสัน ได้อย่างเดือดพล่านโดยไม่ถูกกลบแต่อย่างใด
ซึ่งผมขออวยอีกรอบว่าแกเล่นได้น่าขยะแขยงมาก ทั้งสำเนียงและคำพูดคำจา สมบทบาทในทุกเรื่องที่แกเล่น ลืมเรื่องก่อนที่ทำให้เรารักหมดใจอย่าง นีลในเทเน็ทไปได้เลย ในขณะที่คนอื่นก็แสดงดีตามมาตรฐานนักแสดงฮอลลีวู้ด อาจเพราะเรื่องมันไม่ได้มีจุดพีคอะไรมาก เราเลยได้เห็นการแสดงดี ๆ ที่ชัดเจนก็คือฉากนี้ แต่มันก็คุ้มมาก จนอยากให้ไปฉายในโรงจอใหญ่ ๆ เพราะคุณภาพคับจอจริง ๆ ดนตรีตอนท้ายเทรลเลอร์ พอมาใช้ปิดเรื่องก็ติดหูไปเลย มันอบอุ่นแต่ก็ไม่น่าไว้ใจเหมือนกับบรรยากาศยุค 60 ในเรื่อง อยากเห็นนักแสดงทำอะไรห่าม ๆ คุณจะได้เห็นในหนังเรื่องนี้ครับ
หนัง The Devil All The Time ศรัทธาของมนุษย์มีพลังเหนือพระเจ้าเสมอ
ในขณะที่หากทำในสิ่งที่ผิด ผลของมันก็จะย้อนกลับมาหาเราได้ แม้ต้องใช้เวลากี่ปี แต่มันกลับมาหาได้เสมอ ถ้ามันต้องการ นี่คือสิ่งที่ผมเข้าใจจากหนังเรื่องนี้ สมกับชื่อไทย ศรัทธาของคนบาปเลยล่ะ ศรัทธาของตัวเรา แม้จะบาปแต่คนเราก็มีบาปติดตัวมาตั้งแต่เกิดแล้ว ทำไมเราต้องลังเลที่จะทำสิ่งที่ถูกต้องแม้จะผิดบาปด้วยกัน อย่าโทษว่าพระเจ้าหรือโชคชะตาที่ทอดทิ้งเรา แต่จงโทษตัวเองที่ไม่ยอมทำอะไรตั้งแต่แรกจะดีกว่า เพราะฉะนั้นทำสิ่งที่ต้องทำ แม้จะไม่อยากทำ คือทางเลือกที่เราสร้างขึ้นเอง ไม่ใช่พระเจ้าตามที่ตัวเอกคิดไว้นั่นแหละ
อาร์วิน บุกไปเอาปืนจ่อเพรสตัน ผู้ที่ทำให้ เลอนอร่า น้องสาวเขาท้อง และเป็นเปโดร โรคใคร่เด็กที่ใช้ศาสนาล่อล่วงหญิงสาว อาร์วินโกรธแค้น ในขณะที่เพรสตันไม่ยี่หระ และพูดจาดูถูกเลอนอร่า ด้วย อาร์วินทนไม่ไหวจึงใช้ปืนยิงที่หัวของเพรสตันจนตาย และทิ้งหลักฐานไว้ว่าเพรสตันทำอะไรไว้
ควรชมหรือข้าม?
The Devil All The Time ถือว่าเป็นหนังที่มีคุณภาพที่สุดเรื่องหนึ่งเลยของหนัง อาชญากรรม ระทึกขวัญ ทั้งในด้านงานสร้าง การแสดง และบรรยากาศที่ชวนให้ผู้ชมได้เข้าไปสำรวจจิตใจของคนแต่ละคนว่าเป็นยังไง และอะไรคือจุดจบของพวกเขา มากพร้อมไปด้วยนักแสดงมากฝีมือ เรียกว่าไม่ใช่การรวมดาวเสียของแบบที่เน็ตฟลิกซ์ทำประจำแน่ ๆ ไม่ได้แซะนะ แต่ช่วงหลัง ๆ มาหนังเน็ตฟลิกซ์ไม่ค่อยมีคุณภาพ แม้จะได้นักแสดงดาราชั้นนำมาแสดง ไม่ตายที่บท ก็ตายเพราะการนำเสนอ แต่เรื่องนี้ถือว่าสอบผ่านอย่างแท้จริง ทุกคนได้ปลดปล่อยการแสดง เสน่ห์ อารมณ์ ดิบเถื่อน เป็นคนบาปที่สมบูรณฺ์แบบ และควรค่าพอที่จะติดตามตั้งแต่ต้นจนจบ เพราะฉะนั้นหากมีเวลาหรืออยากหาอะไรดี ๆ ชม ผมขอแนะนำ ศรัทธาคนบาป มันดีกว่าหนังโรงบางเรื่องที่ฉายในขณะนี้ซะอีก ไปครับ